Market Watch จับตาดูโลก ประจำวันที่ 22 เมษายน 2565

Table of Contents

▪ ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ปิดร่วงลงกว่า 1% ในวันพฤหัสบดี (21 เม.ย.) หลังจากนายเจอโรม พาวเวล ประธานธนาคารกลางสหรัฐฯ (FED) ส่งสัญญาณว่า เฟดอาจจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.5% ในการประชุมเดือน พ.ค. ซึ่งถ้อยแถลงดังกล่าวได้บดบังปัจจัยบวกจากรายงานผลประกอบการที่แข็งแกร่งของบริษัทจดทะเบียน

Dow Jones -1.05%

S&P500 -1.48%

Nasdaq -2.07%

ในช่วงแรกนั้น ดัชนีดาวโจนส์พุ่งขึ้นเกือบ 300 จุด ขานรับข้อมูลแรงงานและผลประกอบการที่แข็งแกร่งของบริษัทจดทะเบียน ซึ่งรวมถึงเทสลา และอเมริกัน แอร์ไลน์ แต่หลังจากที่นายพาวเวลส่งสัญญาณการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย ดัชนี Dow Jones และดัชนี Nasdaq ก็ร่วงลงทันที

ทั้งนี้ นายพาวเวลได้กล่าวสุนทรพจน์ว่าด้วยเศรษฐกิจโลกในการประชุมกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) เมื่อคืนนี้ตามเวลาไทย โดยระบุว่า “การเร่งปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเพื่อสกัดเงินเฟ้อถือเป็นการดำเนินการที่เหมาะสม และมีความเป็นไปได้ที่เฟดอาจจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.5% ในการประชุมเดือน พ.ค. นี้”

ทำให้หุ้นทั้ง 11 กลุ่มที่คำนวณในดัชนี S&P500 ปิดในแดนลบ นำโดยดัชนีหุ้นกลุ่มพลังงานร่วงลง 3.1% โดยหุ้นเชฟรอน ดิ่งลง 4.64%, หุ้นโคโนโคฟิลลิปส์ ร่วงลง 3.9%, หุ้นเอ็กซอน โมบิล ลดลง 1.06% เเละหุ้นฮัลลิเบอร์ตัน ร่วงลง 1.67%

ดัชนีหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีและการสื่อสาร ซึ่งมีความอ่อนไหวต่ออัตราดอกเบี้ย ดิ่งลง 2.41% โดยหุ้นเมตา แพลตฟอร์มส ร่วงลง 6.16%, หุ้นแอมะซอน ร่วงลง 3.7%, หุ้นไมโครซอฟท์ ร่วงลง 1.94%, หุ้นเน็ตฟลิกซ์ ร่วงลง 3.52% เเละหุ้นอัลฟาเบท ร่วงลง 2.52%

อย่างไรก็ดี หุ้นเทสลา พุ่งขึ้น 3.23% ปิดที่ระดับ 1,008.78 ดอลลาร์ หลังบริษัทเปิดเผยกำไรต่อหุ้นในไตรมาส 1/2565 อยู่ที่ 3.22 ดอลลาร์ สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ที่ 2.26 ดอลลาร์

หุ้นอเมริกัน แอร์ไลน์ พุ่งขึ้น 3.8% หลังบริษัทเปิดเผยรายได้ในไตรมาส 1/2565 ที่ระดับ 8.90 พันล้านดอลลาร์ สูงกว่าตัวเลขคาดการณ์ที่ระดับ 8.82 พันล้านดอลลาร์

สำหรับข้อมูลเศรษฐกิจที่มีการเปิดเผยเมื่อคืนนี้ กระทรวงแรงงานสหรัฐฯ เปิดเผยตัวเลขผู้ยื่นขอสวัสดิการว่างงานครั้งแรกลดลง 2,000 ราย สู่ระดับ 184,000 รายในสัปดาห์ที่แล้ว โดยตัวเลขดังกล่าวยังคงอยู่ต่ำกว่าระดับ 215,000 ราย ซึ่งเป็นค่าเฉลี่ยต่อสัปดาห์ในช่วงก่อนเกิดการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ในสหรัฐฯ

▪ ตลาดหุ้นยุโรป ปิดบวกในวันพฤหัสบดี (21 เม.ย.) เนื่องจากนักลงทุนขานรับบริษัทจดทะเบียนเปิดเผยผลประกอบการที่สดใส ขณะที่ยังคงจับตาสถานการณ์สงครามระหว่างรัสเซียและยูเครน

Stoxx Europe 600 +0.32%

CAC-40 +1.36%

DAX +0.98%

FTSE 100 -0.02%

หุ้นกลุ่มอุตสาหกรรมนำตลาดปรับตัวขึ้น 1.9% ขณะที่ตลาดหุ้นในยุโรปและกลุ่มหุ้นส่วนใหญ่ปิดในแดนบวก โดยได้แรงหนุนจากการที่บริษัทจดทะเบียนหลายแห่งเปิดเผยผลประกอบการไตรมาสแรกที่แข็งแกร่งเกินคาด

หุ้นไรอันแอร์ พุ่งขึ้น 5.09% หลังได้แรงหนุนจากการที่สายการบินสหรัฐฯ อาทิ ยูไนเต็ด แอร์ไลน์ และอเมริกัน แอร์ไลน์ คาดการณ์แนวโน้มผลประกอบการที่สดใส

หุ้นหลุยส์วิตตอง ปรับตัวขึ้น 1.7% หลังนายเบอร์นาร์ด อาร์โนลต์ ซีอีโอเปิดเผยว่า แนวโน้มผลประกอบการของบริษัทในปีนี้เป็นไปด้วยดี

ด้านตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดบวก โดยได้แรงหนุนจากรายงานข่าวที่ว่า ประธานาธิบดีเอ็มมานูเอล มาครงมีแนวโน้มที่จะชนะการเลือกตั้งสมัยที่ 2

อย่างไรก็ตาม นักลงทุนยังคงวิตกเกี่ยวกับสถานการณ์สงครามในยูเครน ขณะที่มีรายงานว่า ประธานาธิบดีโวโลดิเมียร์ เซเลนสกี ผู้นำยูเครน กล่าวว่า เป็นไปไม่ได้ที่เขาจะเดินทางไปยังกรุงมอสโกเพื่อเจรจาโดยตรงกับประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ผู้นำรัสเซีย เพื่อยุติสงครามระหว่างยูเครนและรัสเซีย

Social Share
Facebook
Twitter
Picture of Traderbobo
Traderbobo

นักลงทุนในตลาด Forex และสินทรัพย์ทางการเงินด้วยประสบการณ์กว่า 10 ปี มุ่งเน้นการนำเสนอเนื้อหาที่เข้าใจง่าย พร้อมแบ่งปันความรู้และกลยุทธ์การเทรด เพื่อช่วยให้คุณประสบความสำเร็จในโลกการเงิน เหมาะสำหรับทั้งเทรดเดอร์มือใหม่และมืออาชีพ

บทความน่าสนใจ
Adsense
Table of Contents
บทความน่าสนใจ
Adsense
Top Forex Brokers
IUX
Rated 5 out of 5
GO Markets
Rated 3.5 out of 5
EIGHTCAP
Rated 4 out of 5
Advertisement
FBS
Rated 3 out of 5
Pepperstone
Rated 2 out of 5
IUX
Rated 5 out of 5
FXGT.com
Rated 3.5 out of 5
EIGHTCAP
Rated 4 out of 5
Advertisement
FBS
Rated 3 out of 5
Pepperstone
Rated 2 out of 5