Market Watch จับตาดูโลก ประจำวันที่ 25 เมษายน 2565

Table of Contents

▪ ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ปิดร่วงลงอย่างหนักในวันศุกร์ (22 เม.ย.) โดยถูกกดดันจากการที่บริษัทจดทะเบียนในสหรัฐฯ มีผลประกอบการที่อ่อนแอกว่าคาด และนักลงทุนวิตกว่า เศรษฐกิจสหรัฐฯ จะได้รับผลกระทบจากการที่ธนาคารกลางสหรัฐฯ (FED) เร่งปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย

Dow Jones -2.82%

S&P500 -2.77%

Nasdaq -2.55%

เมื่อสัปดาห์ที่เเล้วดัชนี S&P500 และดัชนี Nasdaq ปรับตัวลง ขณะที่ดัชนีดาวโจนส์ปรับตัวลงเป็นสัปดาห์ที่ 4 ติดต่อกัน ซึ่งการร่วงลงในวันศุกร์เป็นการร่วงที่มากที่สุดนับตั้งแต่เดือน ต.ค. 2563

นักลงทุนวิตกเกี่ยวกับความเสี่ยงจากการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย หลังจากนายเจอโรม พาวเวล ประธานเฟด กล่าวเมื่อวันพฤหัสบดี (21 เม.ย.) ว่า เขาสนับสนุนให้เฟดดำเนินการเร็วขึ้นเพื่อต่อสู้กับเงินเฟ้อ และระบุว่า มีโอกาสที่เฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.50% ในการประชุมเดือน พ.ค. ตลาดการเงินคาดการณ์ว่า เฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.50% ในการประชุมทั้งในเดือน พ.ค. และ มิ.ย.

ดัชนีความผันผวน CBOE หรือ CBOE Volatility Index (VIX) ซึ่งเป็นมาตรวัดความวิตกของนักลงทุนในตลาดหุ้นวอลล์สตรีท พุ่งขึ้นในวันศุกร์ แตะระดับสูงสุดนับตั้งแต่กลางเดือน มี.ค.

อีกทั้ง การคาดการณ์ผลประกอบการที่อ่อนแอของบริษัทในกลุ่มเฮลท์แคร์กดดันตลาดลงด้วย โดยหุ้นเอชซีเอ เฮลท์แคร์ และหุ้นอินติวทีฟ เซอร์จิคอล อิงค์ ปรับตัวลงมากที่สุดในดัชนี S&P500

หุ้นทั้ง 11 กลุ่มของดัชนี S&P500 ปรับตัวลง โดยกลุ่มวัสดุ ร่วง 3.7% และกลุ่มเฮลท์แคร์ ร่วง 3.6%

หุ้นฟรีพอร์ต-แมคโมแรน อิงค์ ร่วง 6.8% เนื่องจากนักลงทุนวิตกว่า การปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยจะส่งผลกระทบต่อเหมืองทองแดง

นอกจากนี้ ตลาดยังถูกกดดันจากการเปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจในวันศุกร์ด้วย โดยเอสแอนด์พี โกลบอล เปิดเผยว่า ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) รวมภาคการผลิตและภาคบริการเบื้องต้นของสหรัฐฯ ปรับตัวลงสู่ระดับ 55.1 ในเดือน เม.ย. ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดในรอบ 3 เดือน จากระดับ 57.7 ในเดือน มี.ค.

ส่วนในสัปดาห์หน้า ตลาดจะจับตาการเปิดเผยผลประกอบการของบริษัทรายใหญ่ที่สุด 4 แห่งของสหรัฐฯ ได้แก่ แอปเปิล, ไมโครซอฟท์, แอมะซอน และอัลฟาเบท ซึ่งเป็นบริษัทแม่ของกูเกิล

▪ ตลาดหุ้นยุโรป ปิดร่วงลงในวันศุกร์ (22 เม.ย.) ที่ระดับต่ำสุดในรอบเกือบ 1 เดือน โดยถูกกดดันจากปัจจัยลบต่าง ๆ เช่น การล็อกดาวน์เพื่อคุมโรคโควิด-19 ในจีน และความวิตกเกี่ยวกับการเร่งปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย ซึ่งส่งผลกระทบต่อบรรยากาศการซื้อขายหุ้นทั่วโลก

Stoxx Europe 600 -1.79%

CAC-40 -1.99%

DAX -2.48%

FTSE 100 -1.39%

โดยตลาดหุ้นทั่วโลกปรับตัวลงแตะระดับต่ำสุดในรอบ 5 สัปดาห์ เนื่องจากนักลงทุนวิตกว่า การปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอย่างรวดเร็วในสหรัฐฯ, อังกฤษ และยูโรโซน เพื่อสกัดการพุ่งขึ้นของเงินเฟ้อ เนื่องจากจะถ่วงการขยายตัวของเศรษฐกิจโลก

หุ้นกลุ่มเหมืองแร่ ร่วงลง 3.6% เช่น หุ้นเกล็นคอร์ และริโอ ทินโต หลังจากราคาโลหะได้รับผลกระทบจากการล็อกดาวน์ในจีน นอกจากนี้ การเปิดเผยผลประกอบการที่อ่อนแอของบริษัทจดทะเบียน และการเปิดเผยยอดค้าปลีกที่ต่ำกว่าคาดในเดือน มี.ค. ได้ส่งผลกดดันหุ้นค้าปลีก ร่วงลง 3.7%

นอกจากนี้ การเปิดเผยผลประกอบการที่น่าผิดหวังของบริษัทจดทะเบียนถ่วงตลาดลงด้วย โดยหุ้นเคอริงของฝรั่งเศส ร่วง 4.3% หลังเปิดเผยยอดขายลดลง ซึ่งได้รับผลกระทบจากการล็อกดาวน์ในจีน

ส่งผลให้หุ้นเอ็สอาเพของเยอรมนี ร่วง 2.0% หลังรายได้ถูกกระทบ 300 ล้านยูโร (325.26 ล้านดอลลาร์) จากการถอนธุรกิจออกจากรัสเซีย

Social Share
Facebook
Twitter
Picture of Traderbobo
Traderbobo

นักลงทุนในตลาด Forex และสินทรัพย์ทางการเงินด้วยประสบการณ์กว่า 10 ปี มุ่งเน้นการนำเสนอเนื้อหาที่เข้าใจง่าย พร้อมแบ่งปันความรู้และกลยุทธ์การเทรด เพื่อช่วยให้คุณประสบความสำเร็จในโลกการเงิน เหมาะสำหรับทั้งเทรดเดอร์มือใหม่และมืออาชีพ

บทความน่าสนใจ
Adsense
Table of Contents
บทความน่าสนใจ
Adsense
Top Forex Brokers
IUX
Rated 5 out of 5
GO Markets
Rated 3.5 out of 5
EIGHTCAP
Rated 4 out of 5
Advertisement
FBS
Rated 3 out of 5
Pepperstone
Rated 2 out of 5
IUX
Rated 5 out of 5
FXGT.com
Rated 3.5 out of 5
EIGHTCAP
Rated 4 out of 5
Advertisement
FBS
Rated 3 out of 5
Pepperstone
Rated 2 out of 5