‘ ทองคำ ‘ ในช่วงท้ายปี 2022 จะมีแนวโน้มต่อไปอย่างไร?
สืบเนื่องมาจากในช่วงท้ายปี มีปัจจัยลบหลายอย่างที่ผลักให้ ‘ทองคำ’ มีแนวโน้มชะลอตัวลง ล่าสุด เสี่ยงหลุด $1,700 ต่ำที่สุดในรอบ 6 สัปดาห์ จากการแข็งค่าของดอลลาร์สหรัฐในรอบ 20 ปี โดยเป็นผลมาจากเงินเฟ้อที่รุนแรง จนทำให้ธนาคารสหรัฐฯ (FED) ต้องเร่งขึ้นอัตราดอกเบี้ยอย่างต่อเนื่อง และอาจเป็นปัจจัยหลักที่ฉุดราคา ทองคำ ให้ต่ำลงมาอีก
อันดับแรกต้องทำความเข้าใจก่อนว่า การลงทุนในทองคำมีอยู่ 2 รูปแบบ คือ ทองคำที่มีมูลค่าเป็นดอลลาร์ หรือ Gold Spot ที่นักลงทุนส่วนใหญ่นิยมเทรดกัน และทองคำที่มีมูลค่าเป็นเงินบาท โดยนักวิเคราะห์คาดกการณ์ว่า ในปีนี้ทองคำที่มีมูลค่าเป็นดอลลาร์จะให้ผลตอบแทนติดลบ หรือยังปรับตัวลดลงอย่างต่อเนื่อง ซึ่งส่วนใหญ่เป็นผลมาจาก FED ทั้งในด้านการขึ้นดอกเบี้ย และการทำนโยบาย QT (นโยบายดึงสภาพคล่องออกจากระบบ) อย่างรุนแรง เพื่อควบคุมเงินเฟ้อ ดังนั้น เราจึงได้เห็นตลาดลงทุนกลายเป็นแดงเดือดในทุกมิติ สำหรับในปีนี้ทองคำที่มีมูลค่าเป็นดอลลาร์ลดลงไปแล้วกว่า 4% ส่วนในด้านของทองคำที่มีมูลค่าเป็นบาทยังจะให้ผลตอบแทนที่เป็นบวก แต่อยู่ในระดับที่ต่ำ โดยเฉลี่ยอยู่ที่ 2-3% ซึ่งเป็นผลมาจากค่าเงินบาทที่อ่อนค่ามากในรอบหลายปี
อีกทั้ง การประชุม FED ครั้งล่าสุด ก็ยิ่งตอกย้ำว่า ทองคำ อาจมีโอกาสร่วงต่ำหลุด $1,700 จากคำกล่าวของ FED ที่ว่า “ทุกคนต้องยอมเจ็บ เพื่อแก้ปัญหาเงินเฟ้อ” หมายความว่า FED อาจมีการขึ้นดอกเบี้ยที่สูงขึ้น จากการคาดการณ์อยู่ที่ 0.75% ในการประชุมครั้งต่อไป ซึ่งถ้าเป็นจริงอาจทำให้ราคาทองร่วงไปอยู่ที่ $1,680 และยังไม่มีแนวรับต่อไป
แต่ยังมีประเด็นถกเถียงกันอยู่ว่า ในช่วงที่โลกเกิดภาวะเงินเฟ้อ เรายังควรลงทุนในสินทรัพย์ปลอดภัยอย่าง ‘ทองคำ’ กันอยู่หรือไม่ ?
สำหรับประเด็นนี้คงใช้ไม่ได้กับปีที่ค่าเงินดอลลาร์แข็งค่า เนื่องจาก ‘ทองคำ’ เป็นสินทรัพย์ที่ไม่มีดอกเบี้ย ดังนั้น การลงทุนในสกุลเงินดอลลาร์คงน่าดึงดูดกว่า เช่น ณ ตอนนี้การนำสกุลเงินดอลลาร์ไปฝากธนาคารจะได้รับดอกเบี้ยเกือบ 3% และไม่มีความเสี่ยง
อย่างไรก็ตาม แนะนำว่าควรลงทุนทองคำประมาณ 10-15% ในพอร์ต เนื่องจากทองคำยังคงเป็นสินทรัพย์ปลอดภัย (Safe Haven) ที่ทั่วโลกยังให้การยอมรับ อีกทั้งยังมีความกังวลเกี่ยวกับสงครามรัสเซีย-ยูเครนที่ดูเหมือนจะยังไม่สิ้นสุด ช่วยหนุนราคาทองคำอยู่ แต่อย่าลืมว่า นักลงทุนที่ดีต้องปรับเปลี่ยนแผนการลงทุนไปตามสถานการณ์ที่เหมาะสมด้วยครับ
อ่านบทความอื่น ๆ เพิ่มเติม: สาระน่ารู้
พูดคุยและติดตาม Real Time: Facebook Page
