วิเคราะห์ผลกระทบการเปลี่ยนแปลงของราคา ‘ น้ำมัน WTI และ Brent ‘ ผ่านมุมมอง Traderbobo

Table of Contents
น้ำมัน WTI และ Brent

ในช่วงที่ผ่านมาต้องยอมรับว่า ราคาสินค้าโภคภัณฑ์ มีความผันผวนเป็นอย่างมาก แต่หลังจากเกิดสงครามรัสเซีย-ยูเครนก็มีการปรับตัวเพิ่มขึ้นมาอย่างร้อนแรงเกือบทุกประเภทโดยเฉพาะ ‘น้ำมัน’ แต่ดูเหมือนว่า แนวโน้มของราคาน้ำมันจะมีท่าทีลดลงกว่า 30% จากมาตรการล็อคดาวน์ในจีน ซึ่งทำให้นักลงทุนกังวลว่า ความต้องการใช้น้ำมันจะต่ำลงตามไปด้วย ทั้งนี้ เมื่อสัปดาห์ก่อนราคาน้ำมันได้มีการฟื้นตัวเล็กน้อย จากการที่ซาอุดีอาระเบียผู้ผลิตน้ำมันรายใหญ่กำลังหารือลดการผลิต เพื่อพยุงราคาน้ำมันไว้ หากอิหร่านสามารถกลับมาส่งออกน้ำมันได้อีกครั้ง จากที่กล่าวมานั้น หลายคนคงสงสัยว่า สถานการณ์เหล่านี้เกี่ยวอะไรกับเรา และทำไมเราต้องรู้และทำความเข้าใจเกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงของราคาน้ำมันโลก แต่ทราบไหมครับว่า สิ่งเหล่านี้นั้นส่งผลต่อเศรษฐกิจบ้านเราโดยตรง ที่สำคัญหากคุณเป็นนักลงทุนอยู่แล้วล่ะก็บทความนี้จะเป็นประโยชน์มากสำหรับการวิเคราะห์แนวโน้มมราคาน้ำมันในอนาคตครับ

ความสัมพันธ์ระหว่าง WTI และ Brent

น้ำมันโลกที่นักลงทุนส่วนใหญ่ให้ความสำคัญจะมีอยู่ 2 ประเภท หลัก ๆ ได้แก่ WTI และ Brent ซึ่ง Brent มาจากแหล่งในทะเลเหนือ และถูกขนส่งจากทางเรือ แตกต่างจาก WTI ที่มาจากแหล่งในประเทศสหรัฐฯ และขนส่งผ่านทางบก ทำให้มีค่าขนส่งที่มากกว่า และนี่คือสาเหตุว่า ทำไมราคาของน้ำมัน 2 ประเภทนี้ถึงแตกต่างกัน โดยราคาของ Brent จะมีความผันผวนที่มากกว่า เนื่องจากเป็นราคาที่ใช้อ้างอิงกันทั่วโลกต่างจาก WTI ที่มีฐานราคาอยู่ที่สหรัฐฯ เท่านั้น แต่โดยรวมแนวโน้มของทั้งสองประเภทส่วนใหญ่แล้วจะเป็นไปในทิศทางเดียวกัน (อัพเดตราคาน้ำมันทุกวัน)

แต่ถ้าถามถึงความสัมพันธ์กับน้ำมันบ้านเราก็ไม่ค่อยสัมพันธ์กันเท่าไรหรอกครับ เนื่องจากกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงของไทยติดลบกว่า 1 แสนล้านบาท และยังไม่สามารถหาเงินชดเชยในส่วนนี้ได้ ดังนั้น เมื่อราคาน้ำมันโลกปรับตัวลง กองทุนน้ำมันจึงต้องเก็บเงินส่วนต่างไปเสริมสภาพคล่อง และยังต้องพยุงราคาไม่ให้สูงหรือต่ำเกินไปด้วยครับ อีกทั้ง ส่วนใหญ่แล้วไทยนำเข้าน้ำมันจากดูไบมากถึง 80% ทำให้การเปลี่ยนแปลงราคาของน้ำมันดูไบมีผลต่อราคาน้ำมันไทยโดยตรงมากกว่า WTI และ Brent นอกจากนั้นก็คงจะเป็นเรื่องของภาษีต่าง ๆ ที่ทางรัฐบาลเรียกเก็บจากราคาต้นทุนการนำเข้าที่ค่อนข้างสูงอยู่ครับ

รู้หรือไม่? น้ำมัน WTI และ Brent พุ่งขึ้นหรือร่วงลง มีผลต่อเศรษฐกิจอย่างไร

อย่างที่ได้กล่าวไปข้างต้นว่า ราคาน้ำมันกลับมาร้อนแรงอีกครั้งในช่วงที่เกิดสงครามรัสเซีย-ยูเครน เนื่องจากรัสเซียเป็นผู้ผลิตน้ำมันรายใหญ่ อันดับ 3 ของโลก รองจากประเทศสหรัฐฯ และประเทศซาอุดิอาระเบีย จนนำไปสู่การคว่ำบาตรจากหลายประเทศ เมื่อราคาสินค้าโภคภัณฑ์สูงขึ้นก็ผลักดันให้ราคาสินค้าทั้งวัตถุดิบ สินค้าสำเร็จรูป และค่าบริการต่าง ๆ ปรับตัวเพิ่มขึ้นตามไปด้วย จนสุดท้ายก็เกิดภาวะเงินเฟ้อ (Inflation) ในที่สุดครับ

ในทางตรงกันข้าม การที่ราคาน้ำมันขยับลงอย่างต่อเนื่อง มักส่งผลกดดันต่อราคาหุ้นพลังงานทั้งในตลาดหุ้นนอกและในประเทศ ซึ่งอาจเกิดความผันผวนในระยะสั้น เนื่องจากความผันผวนของน้ำมันเป็นเรื่องปกติที่นักลงทุนต้องเผชิญ นอกจากนั้นอาจสื่อถึงการชะลอตัวของเศรษฐกิจในประเทศใหญ่ ๆ อย่างสหรัฐฯ และปริมาณน้ำมันที่ล้นเกินคงคลัง

เห็นไหมครับว่า ราคาน้ำมันนั้นมีความผันผวนทั้งด้านเศรษฐกิจและการลงทุน ดังนั้นพี่โบ้จึงมีวิธีการรับมือจากความผันผวนของราคาน้ำมันมาฝากด้วยครับ

5 วิธีรับมือความผันผวนของราคาน้ำมัน

เนื่องจากราคาน้ำมันมีความผันผวนอยู่ตลอดเวลา ด้วยสาเหตุและปัจจัยต่าง ๆ ที่ได้กล่าวไปข้างต้น ซึ่งบางครั้งความผันผวนอาจทำให้หลายคนตั้งตัวไม่ทัน และส่งผลต่อประสิทธิภาพของการลงทุนในที่สุด วันนี้พี่โบ้จึงมี 5 วิธีรับมือความผันผวนของราคาน้ำมันมาฝากครับ

1. ทบทวนการลงทุนของตนเอง

เมื่อเจอกับความผันผวนที่ไม่คาดคิด อาจจะตกใจจนรับมือไม่ถูก ซึ่งสิ่งแรกที่ควรทำเมื่อเจอสถานการณ์ดังกล่าว คือ การตั้งสติให้ดีและค่อย ๆ หาทางแก้ไข โดยการกลับมาคิดทบทวน และทำความเข้าใจในพื้นฐานของสินทรัพย์แต่ละตัวของตนเอง หลังจากนั้นจะสามารถเข้าใจถึงทิศทางของตลาดและการเปลี่ยนแปลงมากขึ้นครับ

2. หมั่นติดตามข่าวสารอย่างสม่ำเสมอ

การติดตามข่าวสารรอบโลก โดยเฉพาะข่าวสารที่เกี่ยวข้องกับเศรษฐกิจมีความจำเป็นอย่างมากในภาวะที่ตลาดมีความผันผวน เนื่องจากสถานการณ์ต่าง ๆ เช่น ความขัดแย้งทางการเมืองภายในประเทศของประเทศหนึ่ง สามารถสร้างผลกระทบที่ยิ่งใหญ่ต่อทั่วโลกได้ ตัวอย่างที่เห็นได้ชัด คือ สงครามรัสเซีย-ยูเครน ดังนั้น นอกจากการวิเคราะห์กราฟแล้ว จึงควรติดตามข่าวสารอยู่เสมอ เพื่อให้สามารถเข้าใจถึงสาเหตุและการเปลี่ยนแปลงครับ

3. บริหารพอร์ตของตัวเองให้เข้ากับสถานการณ์ปัจจุบัน

นอกจากทบทวนการลงทุนของตนเอง และติดตามข่าวสารรอบโลกแล้ว การปรับพอร์ตของตัวเองให้เข้ากับสถานการณ์ปัจจุบันก็เป็นอีกหนึ่งวิธีที่ควรใช้รับมือเมื่อตลาดมีความผันผวน ซึ่งสามารถทำได้ด้วยการตัดสินใจขายสินทรัพย์บางส่วนทิ้งไป เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดการขาดทุนที่มากเกินไปครับ และสามารถเปลี่ยนไปลงทุนในสินทรัพย์ตัวอื่น ๆ ที่ให้ผลกำไรที่ดีกว่าแทนได้

4. กระจายทรัพย์สินในการลงทุน

การกระจายทรัพย์สินในการลงทุน สามารถช่วยรับมือกับความผันผวนได้เป็นอย่างดี เนื่องจากเมื่อตลาดมีความผันผวน การคาดเดาทิศทางก็จะมีความยากขึ้น ดังนั้น จึงควรเลือกลงทุนในการลงทุนรูปแบบที่มีความเสี่ยงต่ำ หรือมีเสถียรภาพที่มั่นคง เช่น กองทุนรวมหรือพันธบัตรรัฐบาล แต่ควรศึกษารายละเอียดของการลงทุนนั้น ๆ ให้ดีก่อนที่จะลงทุน

5. ลงทุนแบบ DCA (Dollar-Cost Averaging)

การลงทุนแบบ DCA หรือ Dollar-Cost Averaging เป็นวิธีการลงทุนแบบถัวเฉลี่ยต้นทุน โดยเราสามารถกำหนดการลงทุนได้เป็นงวด งวดละเท่า ๆ กัน ซึ่งการลงทุนแบบนี้จะทำให้โอกาสขาดทุนนั้นลดลงครับ ที่สำคัญยังเป็นการลงทุนแบบอัตโนมัติ ดังนั้น จึงไม่ต้องกังวลกับการขึ้นลงของราคา และยังช่วยให้เรามีวินัยในการลงทุนอีกด้วย

อย่างไรก็ตาม การเปลี่ยนแปลงของราคา น้ำมัน WTI และ Brent ถือเป็นสิ่งสำคัญที่นักลงทุนควรใส่ใจ และติดตามข่าวสาร เนื่องจากสามารถวิเคราะห์แนวโน้มการลงทุนได้ดีเลยครับ ทั้งในด้านของเศรษฐกิจและตลาดหุ้น แต่อย่าลืมนะครับว่า ตลาดน้ำมันมีความผันผวนอย่างมาก ดังนั้น เราต้องรู้จักการจัดการความเสี่ยง และรับมือกับความผันผวนที่จะเกิดขึ้นให้ดีครับ

Source: ทีมงาน Traderbobo

อ่านบทความเพิ่มเติมได้ที่: สาระน่ารู้

อ่านรีวิวโบรกเกอร์เพิ่มเติมได้ที่: Review Broker

Social Share
Facebook
Twitter
Picture of Traderbobo
Traderbobo

นักลงทุนในตลาด Forex และสินทรัพย์ทางการเงินด้วยประสบการณ์กว่า 10 ปี มุ่งเน้นการนำเสนอเนื้อหาที่เข้าใจง่าย พร้อมแบ่งปันความรู้และกลยุทธ์การเทรด เพื่อช่วยให้คุณประสบความสำเร็จในโลกการเงิน เหมาะสำหรับทั้งเทรดเดอร์มือใหม่และมืออาชีพ

บทความน่าสนใจ
Adsense
Table of Contents
บทความน่าสนใจ
Adsense
Top Forex Brokers
IUX
Rated 5 out of 5
GO Markets
Rated 3.5 out of 5
EIGHTCAP
Rated 4 out of 5
Advertisement
FBS
Rated 3 out of 5
Pepperstone
Rated 2 out of 5
IUX
Rated 5 out of 5
FXGT.com
Rated 3.5 out of 5
EIGHTCAP
Rated 4 out of 5
Advertisement
FBS
Rated 3 out of 5
Pepperstone
Rated 2 out of 5