Sell in May วิเคราะห์ปรากฏการณ์ ปี 2022

Table of Contents
sell in may

ในตลาดลงทุนมีเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นมากมาย และถูกเรียกไปในชื่อต่าง ๆ สำหรับในเดือน พ.ค. มักเป็นเดือนที่นักลงทุนไม่ค่อยเห็นผลตอบแทนจากการลงทุนมากนัก และเป็นเดือนที่หุ้นส่วนใหญ่ปรับตัวลง หลายคนจึงเรียกปรากฏการณ์นี้ว่า “Sell in May” ซึ่งเป็นปรากฎการณ์ที่ไม่น่าพอใจนักสำหรับนักลงทุน อีกทั้งยังอาจทำให้ตลาดกลายเป็นตลาดหมีไปในระยะยาว

Sell in May เกิดขึ้นได้อย่างไร ?

หากดูจากสถิติของดัชนี S&P500 ในตลาดหุ้นสหรัฐฯ ช่วง 20 ปีที่ผ่านมา พบว่า สถานการณ์ตลาดหุ้นในเดือน พ.ค. ไม่ได้แย่ไปจากเดือนอื่นมากนัก โดยในช่วง 20 ปี ดัชนี S&P500 ให้ผลตอบแทนเป็นลบเพียง 6 ปี สวนทางกับตลาดหุ้นไทย เนื่องจากหากดูสถิติในช่วง 10 ปีย้อนหลัง ผลตอบแทนในเดือน พ.ค. ติดลบจำนวน 6 ปี ซึ่งเป็นจำนวนเกินครึ่ง อาจกล่าวได้ว่า Sell in May นั้น ส่งผลกระทบต่อตลาดหุ้นไทยมากกว่าต่างประเทศ

ความรุนแรงของปรากฏการณ์นี้ มาจากปัจจัยเสริมในแต่ละปี สำหรับปี 2022 นี้ มีตัวแปรที่เป็นปัจจัยลบต่อตลาดลงทุนค่อนข้างมาก ไม่ว่าจะเป็นเงินเฟ้อ, Covid-19, สงครามในยูเครน และการคว่ำบาตรรัสเซียจากยุโรป แต่ที่น่ากังวลและนักลงทุนให้น้ำหนักมากที่สุด คือ การที่ธนาคารกลางสหรัฐฯ (FED) จะเร่งขึ้นอัตราดอกเบี้ย เนื่องจากตลาดหุ้นทั่วโลกมีการฟื้นตัวเร็วจากการระบาดของ Covid-19 ที่ผ่านมา ซึ่งเป็นผลมาจากการอัดฉีดนโยบายการเงินของ FED หรือ Quantitative Easing (QE) เป็นเม็ดเงินจำนวนมหาศาล แต่ ณ ตอนนี้ปริมาณเม็ดเงินกำลังจะถูกดึงออกจากตลาดลงทุน ตามประกาศของ FED ที่ว่า “จะลด QE ลง 47,500 ล้านเหรียญดอลลาร์ต่อเดือน และจะมีการเพิ่มขึ้นอีกในช่วง 3 เดือนข้างหน้า” ประเด็นนี้จึงอาจเป็นประเด็นหลักที่กดดันตลาดลงทุนในปีนี้

วิธีการรับมือกับ Sell in May

หากมันเกิดขึ้นจริง แน่นอนว่าจะกระทบเป็นวงกว้างอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ ดังนั้น ควรมองหาการลงทุนที่จะได้รับผลกระทบน้อยที่สุด เช่น กลุ่มธุรกิจการเปิดเศรษฐกิจ, เมือง, การเดินทาง และการท่องเที่ยว (Pre-Opening) หรือกลุ่มธุรกิจที่มีผลประกอบการที่ชัดเจน ส่วนกลุ่มที่ควรระวังมากเป็นพิเศษในช่วงนี้ คือ กลุ่มเทคโนโลยี เนื่องจากสภาพคล่องที่ลดลง อาจทำให้การให้มูลค่าของหุ้นเทคโนโลยีลดลงตามไปด้วย ซึ่งสามารถเห็นได้จากราคาหุ้นของบริษัทเทคโนโลยีในช่วงเดือนที่ผ่านมา


อย่างไรก็ตาม กลยุทธ์การลงทุนล้วนขึ้นอยู่กับแต่ละบุคคล หากเป็นนักลงทุนระยะยาว เมื่อเวลาผ่านไป 2-3 ปี ความผันผวนที่เกิดขึ้น ณ ตอนนี้ อาจไม่ได้มีผลกระทบต่อหุ้นมากมาย อีกทั้ง ปรากฎการณ์ Sell in May เป็นเพียงสถานการณ์ชั่วคราวเท่านั้น สุดท้ายแล้วตลาดมักจะฟื้นตัวกลับมาได้ในที่สุด แต่ปฏิเสธไม่ได้ว่า การปรับพอร์ตไปตามสัญญาณต่าง ๆ ที่เข้ามาในตลาดเป็นเรื่องที่ควรทำ เพื่อเพิ่มความปลอดภัยให้กับพอร์ตของตนเอง

Sourceทีมงาน Traderbobo

อ่านบทความเพิ่มเติมได้ที่: สาระน่ารู้

อ่านรีวิวโบรกเกอร์เพิ่มเติมได้ที่Review Broker

Social Share
Facebook
Twitter
Picture of Traderbobo
Traderbobo

นักลงทุนในตลาด Forex และสินทรัพย์ทางการเงินด้วยประสบการณ์กว่า 10 ปี มุ่งเน้นการนำเสนอเนื้อหาที่เข้าใจง่าย พร้อมแบ่งปันความรู้และกลยุทธ์การเทรด เพื่อช่วยให้คุณประสบความสำเร็จในโลกการเงิน เหมาะสำหรับทั้งเทรดเดอร์มือใหม่และมืออาชีพ

บทความน่าสนใจ
Adsense
Table of Contents
บทความน่าสนใจ
Adsense
Top Forex Brokers
IUX
Rated 5 out of 5
GO Markets
Rated 3.5 out of 5
EIGHTCAP
Rated 4 out of 5
Advertisement
FBS
Rated 3 out of 5
Pepperstone
Rated 2 out of 5
IUX
Rated 5 out of 5
FXGT.com
Rated 3.5 out of 5
EIGHTCAP
Rated 4 out of 5
Advertisement
FBS
Rated 3 out of 5
Pepperstone
Rated 2 out of 5