ทองคำ และมาตรการ QE เกี่ยวข้องกันอย่างไร ?

Table of Contents
QE

สืบเนื่องมาจากค่าเงินดอลลาร์และทองคำมีความผันผวนอย่างมาก เป็นผลมาจากมาตรการต่าง ๆ ของทางสหรัฐฯ และมาตรการที่ว่านี้ คือ QE หรือ Quantitative Easing เป็นการผ่อนคลายนโยบายการเงินเชิงปริมาณ โดยการที่ธนาคารกลางจะเพิ่มปริมาณเงินเข้าสู่ระบบเศรษฐกิจ ซึ่งการทำเช่นนี้ของธนาคารกลางสหรัฐฯ (FED) จะส่งผลให้เงินดอลลาร์มีการอ่อนค่าลง และเป็นปัจจัยบวกต่อทองคำในรูปแบบของดอลลาร์ (Gold Spot) สังเกตได้จากราคาทองคำจะดีดตัวขึ้นเมื่อเงินสกุลดอลลาร์อ่อนค่าลง และจะถูกฉุดลงเมื่อเงินสกุลดอลลาร์แข็งค่าขึ้น ในบทความนี้เราจะขอธิบายถึงความสัมพันธ์ระหว่าง 2 ตัว ให้เข้าใจมากขึ้น เพื่อประกอบการตัดสินใจหากใครคิดจะลงทุนในสินทรัพย์ต่าง ๆ (สามารถทำความเข้าใจเกี่ยวกับ QE และ QT ได้ที่นี่)

เหตุใด ทองคำ และ QE จึงมีความสัมพันธ์กัน ?

อย่างที่กล่าวไปข้างต้นว่า การที่ทางรัฐบาลใช้มาตรการ QE นั้นจะทำให้สกุลเงินดอลลาร์อ่อนลง ซึ่งเป็นปัจจัยบวกต่อตลาดทองคำ เนื่องจากการอ่อนค่าของดอลลาร์จะทำให้ทองคำน่าดึงดูด และราคาถูกลงสำหรับผู้ที่ถือเงินสกุลอื่น ๆ เนื่องจากใช้เงินสกุลตนเองไปแลกดอลลาร์ได้มากขึ้น และจะมีกำลังซื้อที่สูงขึ้นเช่นกัน

QE

ในทางกลับกัน หากดอลลาร์แข็งค่าขึ้น ซึ่งในส่วนนี้อาจเกิดจากการทำมาตรการ QT หรือ Quantitative Tightening เพื่อดึงปริมาณเงินออกจากระบบเศรษฐกิจ จะทำให้ราคาทองคำในรูปแบบของดอลลาร์มีราคาสูงขึ้น เนื่องจากเราจำเป็นต้องใช้เงินในสกุลอื่นจำนวนมากขึ้นไปแลกเป็นดอลลาร์ และทำให้กำลังซื้อน้อยลง

มาตรการ QE มีผลอย่างไรกับ ทองคำ และดอลลาร์ ?

จากการที่ครั้งนั้น ธนาคารกลางสหรัฐไม่ได้จำกัดวงเงินในการทำ QE เนื่องจากว่าอาจจะเห็นว่าถ้ากำหนดวงเงินเหมือนรอบที่ผ่านมา อาจจะส่งผลเสียต่อเศรษฐกิจสหรัฐฯ ระยะยาว โดยเฉพาะงบดุลของรัฐบาลกลาง จึงส่งผลให้ Dollar Index ปรับตัวแข็งค่าขึ้นอย่างต่อเนื่อง จึงทำให้นักลงทุนหลายคนมองว่า ทองคำเป็น Safe Haven จากการป้องกันสภาวะเงินเฟ้อที่ถูกลดลงและถูกเทขาย จึงแสดงให้เห็นว่า ความสัมพันธ์ระหว่างค่าเงินดอลลาร์และทองคำมีทิศทางที่ตรงกันข้ามอย่างชัดเจน

ทำไมธนาคารกลางสหรัฐต้องทำ QE ?

ต้องบอกว่าก่อนว่าการทำ QE ของสหรัฐฯ ในช่วงวิกฤตซับไพร์ม สามารถเป็นแรงขับเคลื่อนให้ราคาทองคำมีขาขึ้นเป็นระยะเวลายาวนานถึง 3 ปี และสามารถสร้างผลตอบแทนได้ถึง 180% นับตั้งแต่เดือนตุลาคม 2552 จนแตะระดับสูงสุดในช่วงเดือนมกราคม 2555 ที่ระดับ 1,925 ดอลลาร์ ซึ่งถือว่าเป็นระดับที่สูงมาก แต่หลังจากที่ธนาคารกลางสหรัฐฯ ได้ทำการถอนมาตราการ QE ออกจากระบบ จึงทำให้ราคาทองคำอยู่ในช่วงตลอดเกือบ 5 ปี และได้ลดต่ำลงจนถึงจุด 45% ซึ่งการทำ QE นั้นจะทำเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ ในช่วงที่เกิดวิกฤตต่าง ๆ และเริ่มมีภาวะเงินฝืดเกิดขึ้น

แล้วโควิด-19 มีผลต่อราคาทองคำโดยตรงหรือไม่ ?

จากโรคระบาดโควิด-19 ได้มีการระบาดอย่างหนัก จึงทำให้ธนาคารกลางสหรัฐฯ ทำการอัดฉีดสภาพคล่องด้วยการทำมาตราการ QE อีกครั้ง ทำให้ราคาทองคำปรับตัวขึ้นไป 42% ทำให้เกิดเหตุการณ์ BLACK THURSDAY โดยการเกิดเหตุการณ์นี้ทำให้ราคาทองคำเกิด New High ที่สูงที่สุดอยู่ที่ 2,081 ดอลลาร์ แต่ว่าหลังจากนั้นไม่นานราคาทองคำ ก็ได้ปรับตัวเป็นขาลงอย่างต่อเนื่อง ในขณะนี้ก็ลดต่ำลงมาแล้วกว่า 20%

เงินสกุลอื่นมีผลต่อราคา ทองคำ หรือไม่ ? 

เนื่องจากทิศทางของดอลลาร์จะดูได้จาก Dollar Index ที่คำนวณถ่วงน้ำหนักเทียบกับเงิน 6 สกุล คือ Euro 57.6%, Yen 13.6%, Pound 11.9%, Canadian 9.1%, Swedish 4.2% และ Swiss franc 3.6% ดังนั้น เงินสกุลอื่นจะแปรผกผันกับเงินดอลลาร์ สรุุปง่าย ๆ คือ ราคาทองคำจะมีทิศทางเดียวกับเงินสกุลอื่น และเคลื่อนไหวคนละทิศทางกับเงินดอลลาร์

อย่างไรก็ตาม การทำความเข้าใจกับมาตรการทางการเงินต่าง ๆ ของธนาคารกลาง และความเป็นมาของค่าเงิน จะช่วยให้นักลงทุนวิเคราะห์แนวโน้มของราคาทองคำได้ดีขึ้น ซึ่งต้องอาศัยการศึกษาข้อมูล และการฝึกฝนในการวิเคราะห์ เพื่อการวิเคราะห์ที่มีประสิทธิภาพ และเพิ่มโอกาสในการทำกำไร


อ่านบทความอื่น ๆ เพิ่มเติม: สาระน่ารู้

พูดคุยและติดตาม Real Time: Facebook Page

Social Share
Facebook
Twitter
Picture of Traderbobo
Traderbobo

นักลงทุนในตลาด Forex และสินทรัพย์ทางการเงินด้วยประสบการณ์กว่า 10 ปี มุ่งเน้นการนำเสนอเนื้อหาที่เข้าใจง่าย พร้อมแบ่งปันความรู้และกลยุทธ์การเทรด เพื่อช่วยให้คุณประสบความสำเร็จในโลกการเงิน เหมาะสำหรับทั้งเทรดเดอร์มือใหม่และมืออาชีพ

บทความน่าสนใจ
Adsense
Table of Contents
บทความน่าสนใจ
Adsense
Top Forex Brokers
IUX
Rated 5 out of 5
GO Markets
Rated 3.5 out of 5
EIGHTCAP
Rated 4 out of 5
Advertisement
FBS
Rated 3 out of 5
Pepperstone
Rated 2 out of 5
IUX
Rated 5 out of 5
FXGT.com
Rated 3.5 out of 5
EIGHTCAP
Rated 4 out of 5
Advertisement
FBS
Rated 3 out of 5
Pepperstone
Rated 2 out of 5