Market Watch จับตาดูโลก ประจำวันที่ 9 พฤษภาคม 2565

Table of Contents

▪ ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ปิดลดลงในวันศุกร์ (6 พ.ค.) เนื่องจากนักลงทุนวิตกว่า ธนาคารกลางสหรัฐฯ (FED) จำเป็นจะต้องปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอีกเพื่อสกัดกั้นเงินเฟ้อ นักลงทุนส่วนใหญ่คาดว่า เฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอีก 0.75% ในการประชุมเดือน พ.ย. แม้นายเจอโรม พาวเวล ประธานเฟด ได้ปฏิเสธการคาดการณ์ดังกล่าวก็ตาม

Dow Jones -0.30%

S&P500 -0.57%

Nasdaq -1.40%

ข้อมูลจากดาวโจนส์ มาร์เก็ต ดาต้า ระบุว่า Dow Jones ปรับตัวลงเป็นสัปดาห์ที่ 6 ติดต่อกันแล้ว ขณะที่ดัชนี Nasdaq ปิดที่ระดับต่ำสุดนับตั้งแต่ปี 2563 และปรับตัวลงเป็นสัปดาห์ที่ 5 ติดต่อกันนานที่สุดนับตั้งแต่ไตรมาส 4 ของปี 2555 และดัชนี S&P500 ปรับตัวลงติดต่อกันเป็นสัปดาห์ที่ 5 นานที่สุดนับตั้งแต่ไตรมาส 2 ของปี 2554

หุ้น 9 ใน 11 กลุ่มของดัชนี S&P500 ปรับตัวลง ขณะที่หุ้นกลุ่มพลังงานปรับตัวขึ้น 2.9% สวนทางตลาดโดยได้แรงหนุนจากราคาน้ำมันที่เพิ่มขึ้นจากความวิตกด้านอุปทาน

หุ้นกลุ่มเติบโตขนาดใหญ่ปรับตัวลง ยกเว้นบางตัว เช่น หุ้นแอปเปิล บวก 0.5% ขณะที่หุ้นเวลส์ ฟาร์โก ลดลง 0.5% และนำหุ้นกลุ่มธนาคารขนาดใหญ่ปรับตัวลงด้วย

หุ้นอันเดอร์ อาร์เมอร์ อิงค์ ซึ่งผลิตชุดกีฬา ร่วงลง 23.8% หลังคาดการณ์แนวโน้มผลกำไรปี 2566 ในเชิงลบ ขณะที่หุ้นไนกี้ ซึ่งเป็นบริษัทคู่แข่งปรับตัวลงด้วย ในส่วนของหุ้นคอยน์เบส โกลบอล อิงค์ ร่วงลง 9% สู่ระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เริ่มซื้อขายในตลาดเมื่อปีที่แล้ว

บรรดานักลงทุนจะจับตาการเปิดเผยข้อมูลดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) รายเดือนในวันพุธหน้า เพื่อหาสัญญาณบ่งชี้ว่าเงินเฟ้อในสหรัฐฯ ใกล้แตะระดับสูงสุดแล้วหรือไม่

กระทรวงแรงงานสหรัฐฯ เปิดเผยในวันศุกร์ (6 พ.ค.) ว่า ตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรเพิ่มขึ้น 428,000 ตำแหน่งในเดือน เม.ย. สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 400,000 ตำแหน่ง ส่วนอัตราการว่างงานทรงตัวที่ระดับ 3.6% สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 3.5% และตัวเลขค่าจ้างรายชั่วโมงโดยเฉลี่ยของแรงงาน เพิ่มขึ้น 0.3% ต่ำกว่าตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ที่ระดับ 0.4%

▪ ตลาดหุ้นยุโรป ปิดลดลงในวันศุกร์ (6 พ.ค.) และปรับตัวลงในรอบสัปดาห์นี้รุนแรงที่สุดในรอบ 2 เดือน เนื่องจากหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีและกลุ่มค้าปลีกเผชิญกับแรงเทขาย ท่ามกลางแนวโน้มการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยมากขึ้น เพื่อสกัดเงินเฟ้อที่พุ่งสูงขึ้น

Stoxx Europe 600 -1.91%

CAC-40 -1.73%

DAX -1.64%

FTSE 100 -1.54%

หุ้นกลุ่มค้าปลีกปรับตัวลง 2% และกลุ่มเทคโนโลยีร่วงลง 2.4% ซึ่งดัชนีหุ้นกลุ่มค้าปลีกร่วงแตะระดับต่ำสุดในรอบ 2 ปี หลังการเปิดเผยผลประกอบการที่อ่อนแอ บ่งชี้ถึงผลกระทบจากเงินเฟ้อที่เพิ่มขึ้น, สงครามในยูเครน และการล็อกดาวน์รอบใหม่ในจีน

หุ้นอาดิดาส ร่วง 3.6% หลังปรับลดคาดการณ์ยอดขายในปีนี้ เนื่องจากการล็อกดาวน์รอบใหม่ของจีนส่งผลกระทบกับยอดขาย

หุ้นกลุ่มเทคโนโลยีปรับตัวลงตามหุ้นสหรัฐฯ ซึ่งถูกกดดันจากการที่อัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐฯ ปรับตัวขึ้น

ข้อมูลการจ้างงานที่แข็งแกร่งเกินคาดของสหรัฐฯ ได้เพิ่มความวิตกว่า ธนาคารกลางสหรัฐฯ (FED) จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยมากขึ้น

นักลงทุนคาดการณ์ว่า ธนาคารกลางยุโรป (ECB) จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยภายในปีนี้ และอาจปรับขึ้นอย่างเร็วที่สุดในเดือน ก.ค. หลังการเปิดเผยข้อมูลเงินเฟ้อของยูโรโซนที่สูงเป็นประวัติการณ์

อย่างไรก็ตาม หุ้นกลุ่มน้ำมันและก๊าซ ปรับตัวขึ้น 0.5% สวนทางตลาด หลังจากราคาน้ำมันดิบพุ่งขึ้นเหนือระดับ 110 ดอลลาร์/บาร์เรล เนื่องจากสหภาพยุโรปเตรียมคว่ำบาตรน้ำมันรัสเซีย

Social Share
Facebook
Twitter
Picture of Traderbobo
Traderbobo

นักลงทุนในตลาด Forex และสินทรัพย์ทางการเงินด้วยประสบการณ์กว่า 10 ปี มุ่งเน้นการนำเสนอเนื้อหาที่เข้าใจง่าย พร้อมแบ่งปันความรู้และกลยุทธ์การเทรด เพื่อช่วยให้คุณประสบความสำเร็จในโลกการเงิน เหมาะสำหรับทั้งเทรดเดอร์มือใหม่และมืออาชีพ

บทความน่าสนใจ
Adsense
Table of Contents
บทความน่าสนใจ
Adsense
Top Forex Brokers
IUX
Rated 5 out of 5
GO Markets
Rated 3.5 out of 5
EIGHTCAP
Rated 4 out of 5
Advertisement
FBS
Rated 3 out of 5
Pepperstone
Rated 2 out of 5
IUX
Rated 5 out of 5
FXGT.com
Rated 3.5 out of 5
EIGHTCAP
Rated 4 out of 5
Advertisement
FBS
Rated 3 out of 5
Pepperstone
Rated 2 out of 5