Market Watch จับตาดูโลก ประจำวันที่ 16 กันยายน 2565

Table of Contents
Market Watch
Market Watch จับตาดูโลก

Market Watch จับตาโลกวันนี้ : เมื่อวันพฤหัสบดี (15 ก.ย.) ตลาดหุ้นสหรัฐฯ และตลาดหุ้นยุโรปปิดลบ จากความกังวลว่า ธนาคารกลางทั่วโลกจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยแรงขึ้น และกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) ออกรายงานเตือนว่า เศรษฐกิจโลกมีความเสี่ยงที่จะเผชิญภาวะถดถอย ซึ่งหุ้นกลุ่มพลังงานและกลุ่มเทคโนโลยีปรับตัวลงมากที่สุด

▪ ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ปิดลบในวันพฤหัสบดี (15 ก.ย.) จากความกังวลว่า ธนาคารกลางทั่วโลกจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยแรงขึ้น อีกทั้ง กองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) ออกรายงานเตือนว่า เศรษฐกิจโลกมีความเสี่ยงที่จะเผชิญภาวะถดถอย

Dow Jones -0.56%

S&P500 -1.13%

Nasdaq -1.43%

ข้อมูลจาก FedWatch Tool ของ CME Group บ่งชี้ว่า ขณะนี้นักลงทุนให้น้ำหนัก 80% ที่เฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.75% สู่ระดับ 3.00-3.25% ในการประชุมวันที่ 20-21 ก.ย. และให้น้ำหนัก 20% ที่เฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 1.00%

นอกจากนี้ การเปิดเผยข้อมูลที่แข็งแกร่งหลายรายการเมื่อคืนนี้ ได้แก่ ยอดค้าปลีกเดือน ส.ค. เพิ่มขึ้น 0.3% เมื่อเทียบรายเดือน สวนทางกับที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะทรงตัว หลังจากที่ลดลง 0.4% ในเดือน ก.ค. ขณะที่ตัวเลขผู้ยื่นขอสวัสดิการว่างงานครั้งแรกลดลง 5,000 ราย สู่ระดับ 213,000 รายในสัปดาห์ที่แล้ว ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดในรอบ 3 เดือน และสวนทางนักวิเคราะห์ที่คาดว่าจะเพิ่มขึ้นสู่ระดับ 226,000 ราย ยิ่งตอกย้ำถึงการเร่งขึ้นอัตราดอกเบี้ย

หุ้นกลุ่มเทคโนโลยี ซึ่งมีความอ่อนไหวต่ออัตราดอกเบี้ย ร่วงลงหลังจากอัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐดีดตัวขึ้นเมื่อคืนนี้ โดยหุ้นแอปเปิล ร่วงลง 1.89%, หุ้นเมตา แพลทฟอร์มส์ ดิ่งลง 1.27%, หุ้นแอมะซอน ร่วงลง 1.77%, หุ้นไมโครซอฟท์ ร่วงลง 2.71% และหุ้นอัลฟาเฟท ดิ่งลง 1.99%

หุ้นกลุ่มพลังงานร่วงลง หลังจากราคาน้ำมัน WTI ดิ่งลงกว่า 3% โดยหุ้นฮัลลิเบอร์ตัน ร่วงลง 3.29%, หุ้นโคโนโคฟิลลิปส์ ร่วงลง 1.83%, หุ้นเชฟรอน ลดลง 1.62% และหุ้นเอ็กซอน โมบิล ดิ่งลง 2.91%

หุ้นอะโดบี (Adobe) ทรุดตัวลง 16.79% หลังจากอะโดบีประกาศซื้อกิจการฟิกม่า (Figma) ในวงเงินสูงถึง 2 หมื่นล้านดอลลาร์

แต่หุ้นกลุ่มธนาคารดีดตัวขึ้นสวนทางตลาด เนื่องจากเป็นหุ้นกลุ่มที่ได้ประโยชน์จากอัตราดอกเบี้ยขาขึ้น โดยหุ้นเจพีมอร์แกน พุ่งขึ้น 1.44%, หุ้นมอร์แกน สแตนลีย์ ดีดขึ้น 1.24% และหุ้นโกลด์แมน แซคส์ พุ่งขึ้น 1.33%

▪ ตลาดหุ้นยุโรป ปิดลดลงในวันพฤหัสบดี (15 ก.ย.) นำโดยหุ้นกลุ่มพลังงานและกลุ่มเทคโนโลยี ขณะที่นักลงทุนยังคงวิตกกับภาวะเงินเฟ้อที่ระดับสูง และแนวโน้มการคุมเข้มนโยบายการเงินอย่างต่อเนื่อง

CAC-40 -0.65%

Stoxx Europe 600 -1.04%

DAX -0.55%

FTSE 100 +0.07%

ตลาดยังคงถูกกดดันจากการเปิดเผยข้อมูลเงินเฟ้อที่ระดับสูงในสหรัฐฯ และแนวโน้มที่ธนาคารกลางสหรัฐฯ (FED) จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอีก 0.75% ในสัปดาห์หน้า ขณะที่ธนาคารกลางยุโรป (ECB) ก็ได้ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.75% เช่นกันในเดือนนี้ และส่งสัญญาณว่าจะปรับขึ้นต่อไปเพื่อสกัดเงินเฟ้อ

หุ้นกลุ่มเทคโนโลยี ร่วง 1.8% และดึงดัชนี STOXX 600 ลงมากที่สุด โดยนักลงทุนเทขายหุ้นกลุ่มนี้ เนื่องจากคาดว่าภาวะอัตราดอกเบี้ยสูง จะกดดันผลประกอบการในอนาคตของหุ้นกลุ่มนี้

แต่หุ้นกลุ่มธนาคารของยุโรป ปรับตัวขึ้น 1.7% สวนทางตลาด โดยได้แรงหนุนจากการคาดการณ์อัตราดอกเบี้ยที่สูงขึ้น โดยมอร์แกน สแตนลีย์ ปรับเพิ่มน้ำหนักการลงทุนในหุ้นกลุ่มธนาคาร โดยระบุว่า ราคาหุ้นยังคงต่ำกว่ามูลค่า และผลประกอบการมีแนวโน้มฟื้นตัว

ในส่วนของหุ้นรายตัวที่ปรับตัวลง เช่น หุ้นเอชแอนด์เอ็ม (H&M) ซึ่งเป็นบริษัทจำหน่ายสินค้าแฟชั่นของสวีเดน ร่วงลง 4.7% หลังเปิดเผยยอดขายรายไตรมาสที่ต่ำกว่าคาด เนื่องจากผู้บริโภคลดการใช้จ่ายลง ท่ามกลางภาวะราคาพลังงานและอาหารที่เพิ่มสูงขึ้น และเอชแอนด์เอ็มยังเผชิญกับความยากลำบากในการแข่งขันกับซาร่า ซึ่งเป็นบริษัทคู่แข่งด้วย

Social Share
Facebook
Twitter
Picture of Traderbobo
Traderbobo

นักลงทุนในตลาด Forex และสินทรัพย์ทางการเงินด้วยประสบการณ์กว่า 10 ปี มุ่งเน้นการนำเสนอเนื้อหาที่เข้าใจง่าย พร้อมแบ่งปันความรู้และกลยุทธ์การเทรด เพื่อช่วยให้คุณประสบความสำเร็จในโลกการเงิน เหมาะสำหรับทั้งเทรดเดอร์มือใหม่และมืออาชีพ

บทความน่าสนใจ
Adsense
Table of Contents
บทความน่าสนใจ
Adsense
Top Forex Brokers
IUX
Rated 5 out of 5
GO Markets
Rated 3.5 out of 5
EIGHTCAP
Rated 4 out of 5
Advertisement
FBS
Rated 3 out of 5
Pepperstone
Rated 2 out of 5
IUX
Rated 5 out of 5
FXGT.com
Rated 3.5 out of 5
EIGHTCAP
Rated 4 out of 5
Advertisement
FBS
Rated 3 out of 5
Pepperstone
Rated 2 out of 5