ดัชนีหุ้นใหญ่ทั้ง 3 ของสหรัฐฯ ลดลงเป็นวันที่ 2 ติดต่อกัน โดยDow Jones -0.47% S&P500 500 -0.096% Nasdaq -0.13%
ในส่วนของตลาดหุ้นยุโรปปรับตัวลงเช่นกัน เเละได้ลบล้างแรงบวกทั้งหมดที่ทำไว้ในช่วง 3 วันแรกของปีนี้ นำโดยหุ้นกลุ่มเทคโนโลยี ร่วงลง 2.4% เนื่องจากแนวโน้มอัตราดอกเบี้ยที่เพิ่มขึ้นจะทำให้ผลประกอบการในอนาคตจะมีความน่าดึงดูดใจน้อยลง CAC-40 -1.72%DAX -1.35% FTSE 100 -0.88%
ทั้งหมดนี้เป็นผลมาจากการขึ้นดอกเบี้ยมาตรฐานของธนาคารกลางสหรัฐฯ ซึ่งยังเป็นเรื่องที่นักลงทุนจับตามองในปี 2565 นี้ โดยตลาดยังคงประเมินอัตราเงินเฟ้อว่า FED จะตัดสินใจเข้ามาแทรกแซงอย่างรุนแรงเพียงใด หาก FED ขึ้นดอกเบี้ยก่อนกำหนดเพื่อคุมอัตราเงินเฟ้อ ก็อาจได้เห็นผลกระทบต่อตลาดหุ้น
ในขณะเดียวกัน นักลงทุนยังชั่งน้ำหนักรายงานตัวเลขผู้ขอรับสวัสดิการคนว่างงานประจำสัปดาห์ ซึ่งแสดงให้เห็นว่า เมื่อสัปดาห์ก่อนมีผู้ขอรับสวัสดิการเพิ่มขึ้น แต่ยังอยู่ในระดับเกือบต่ำสุดในรอบ 52 ปี สะท้อนว่าตลาดแรงงานยังคงฟื้นตัว ขณะที่กระทรวงแรงงานจะเปิดเผยข้อมูลจ้างงานประจำเดือนธันวาคมในวันศุกร์ ซึ่งเป็นตัวชี้วัดเศรษฐกิจสหรัฐฯ และอาจบอกได้ว่า ไวรัสโควิดโอมิครอน ส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจมากเพียงใด
