Market Watch จับตาดูโลก ประจำวันที่ 26 มกราคม 2565

Table of Contents

▪ ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ปิดลบในวันอังคาร (25 ม.ค.) เนื่องจากนักลงทุนยังคงวิตกกังวลเกี่ยวกับสถานการณ์ยูเครน และแนวโน้มการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐฯ (FED) เเต่ในระหว่างวัน ดัชนี Dow Jones ดีดตัวขึ้นจากระดับต่ำสุด โดยได้ปัจจัยหนุนจากแรงซื้อหุ้นกลุ่มพลังงานและกลุ่มธนาคาร ในส่วนหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีร่วงลง หลังจากอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 10 ปีดีดตัวขึ้นแตะระดับ 1.78%

Dow Jones -0.19%

S&P500 -1.22%

Nasdaq -2.28%

นอกจากนี้ ตลาดยังถูกกดดันจากการที่กองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) ปรับลดตัวเลขคาดการณ์เศรษฐกิจโลกในปีนี้ โดยระบุถึงผลกระทบจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19, ภาวะคอขวดในห่วงโซ่อุปทาน รวมทั้งเงินเฟ้อที่พุ่งขึ้น

ทั้งนี้ IMF คาดว่า เศรษฐกิจโลกจะขยายตัว 4.4% ในปี 2565 ลดลงจากตัวเลขคาดการณ์เดิมที่ระดับ 4.9% พร้อมกับคาดการณ์ว่าเศรษฐกิจสหรัฐจะขยายตัวเพียง 4.0% ในปีนี้ ลดลงจากเดิมที่คาดว่าจะขยายตัว 5.2% โดยได้รับผลกระทบจากการที่เฟดถอนมาตรการกระตุ้นทางการเงิน

▪ ตลาดหุ้นยุโรปฟื้นตัวเล็กน้อยในวันอังคาร (25 ม.ค.) จากการร่วงลงอย่างหนักในวันจันทร์ ขณะที่การเปิดเผยผลประกอบการที่แข็งแกร่งของบริษัทจดทะเบียนได้ช่วยหนุนตลาด โดยหุ้นอีริกสัน พุ่งขึ้นเกือบ 8% หลังเปิดเผยผลกำไรไตรมาส 4 สูงเกินคาด

Stoxx Europe 600 +0.71%

CAC-40 +0.74%

DAX +0.75%

FTSE 100 +1.02%

ตลาดยังได้แรงหนุน หลัง Ifo ซึ่งเป็นสถาบันวิจัยเศรษฐกิจของเยอรมนี เปิดเผยว่า ดัชนีความเชื่อมั่นภาคธุรกิจของเยอรมนีดีดตัวขึ้นในเดือนม.ค. หลังจากร่วงลงติดต่อกัน 6 เดือน ทั้งนี้ ดัชนีความเชื่อมั่นปรับตัวขึ้นสู่ระดับ 95.7 ในเดือนม.ค. จากระดับ 94.8 ในเดือนธ.ค. และสูงกว่าตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ที่ระดับ 94.5

อย่างไรก็ตาม บรรดานักลงทุนมีความวิตกมากขึ้นเกี่ยวกับแนวโน้มการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย และการลดมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของธนาคารกลางต่าง ๆ โดยอัตราดอกเบี้ยที่เพิ่มขึ้นเป็นแรงหนุนกับหุ้นบางกลุ่ม อาทิ กลุ่มการเงิน แต่เป็นปัจจัยลบต่อหุ้นกลุ่มที่มีการขยายตัวสูงในตลาด อาทิ กลุ่มเทคโนโลยี

▪ นักลงทุนจับตาผลการประชุม FED ซึ่งจะมีการแถลงในวันนี้ตามเวลาสหรัฐฯ หรือในช่วงเช้าตรู่ของวันพรุ่งนี้ตามเวลาไทย นอกจากนี้ นักลงทุนยังจับตาการเปิดเผยผลประกอบการของบริษัทเทคโนโลยีรายใหญ่ในสัปดาห์นี้ ซึ่งได้แก่ Microsoft, Tesla และ Apple

▪ สำหรับข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่มีการเปิดเผยล่าสุดเมื่อคืนนี้ เอสแอนด์พี คอร์โลจิก เคส ชิลเลอร์ เปิดเผยผลสำรวจบ่งชี้ว่า ดัชนีราคาบ้านทั่วประเทศในสหรัฐพุ่งขึ้น 18.8% ในเดือนพ.ย. เมื่อเทียบรายปี โดยราคาบ้านยังคงได้รับแรงหนุนจากอุปสงค์ของผู้ซื้อบ้าน และสต็อกบ้านที่ตึงตัว รวมทั้งอัตราดอกเบี้ยเงินกู้จำนองที่ระดับต่ำ

Social Share
Facebook
Twitter
Picture of Traderbobo
Traderbobo

นักลงทุนในตลาด Forex และสินทรัพย์ทางการเงินด้วยประสบการณ์กว่า 10 ปี มุ่งเน้นการนำเสนอเนื้อหาที่เข้าใจง่าย พร้อมแบ่งปันความรู้และกลยุทธ์การเทรด เพื่อช่วยให้คุณประสบความสำเร็จในโลกการเงิน เหมาะสำหรับทั้งเทรดเดอร์มือใหม่และมืออาชีพ

บทความน่าสนใจ
Adsense
Table of Contents
บทความน่าสนใจ
Adsense
Top Forex Brokers
IUX
Rated 5 out of 5
GO Markets
Rated 3.5 out of 5
EIGHTCAP
Rated 4 out of 5
Advertisement
FBS
Rated 3 out of 5
Pepperstone
Rated 2 out of 5
IUX
Rated 5 out of 5
FXGT.com
Rated 3.5 out of 5
EIGHTCAP
Rated 4 out of 5
Advertisement
FBS
Rated 3 out of 5
Pepperstone
Rated 2 out of 5