วิกฤตรัสเซีย-ยูเครน เกิดขึ้นได้อย่างไร ?

Table of Contents
วิกฤตรัสเซีย-ยูเครน

ประเด็นร้องแรงที่สร้างความปั่นป่วนให้กับตลาดการลงทุน ตั้งแต่ราคาข้าวสาลี ราคาน้ำมัน สินค้าโภคภัณฑ์ ค่าเงิน รวมไปถึงตลาดหุ้นทั่วโลก คงหนีไม่พ้นในเรื่องของปมความขัดแย้งระหว่างรัสเซียและยูเครนที่กำลังตึงเครียดที่สุดในรอบหลายปี เมื่อรัสเซียสั่งสมกำลังทหารกว่า 100,000 นาย ประชิดชายแดนยูเครน ตั้งแต่ช่วงปลายปี 2021 สถานการณ์นี้สร้างความกังวลไปทั่วโลก โดยเฉพาะมหาอำนาจตะวันตก อย่างสหรัฐฯ ชาติยุโรป และองค์การ NATO ที่กลัวว่า รัสเซียอาจเปิดฉากรุกรานดินแดนยูเครน จนกลายเป็นสงครามระหว่างสองประเทศเพื่อนบ้านที่มีพรมแดนติดต่อกัน และส่งผลกระทบเป็นวงกว้าง

วิกฤตรัสเซีย-ยูเครน เกิดขึ้นได้อย่างไร ?

หากกล่าวถึงปมความขัดแย้ง คงต้องย้อนกลับไปเมื่อก่อนปี 1991 ซึ่งยูเครนยังถือเป็นส่วนหนึ่งของรัสเซีย ก่อนจะมีการประกาศเอกราชของตนเอง แต่การกระทำในครั้งนี้ รัสเซียไม่ได้ยอมรับอย่างเต็มใจนัก โดยเฉพาะในพื้นที่ชายแดนของยูเครนที่ติดกับตะวันตกของรัสเซีย จึงทำให้เกิดการเซ็นสนธิสัญญาขึ้นมาในปี 2014 โดยมีเยอรมันและฝรั่งเศสเป็นเจ้าภาพ แต่ ณ ตอนนั้น ทางรัสเซียได้กล่าวว่า ยูเครนไม่ทำตามเงื่อนไขตามสนธิสัญญา จึงทำให้เกิดการขัดแย้ง และแรงจูงใจในการเข้ายึดยูเครนขึ้นมา

วิกฤตรัสเซีย-ยูเครน
พื้นที่สีเหลือ: เป็นของยูเครน
พื้นที่สีชมพู: เป็นของรัสเซีย
ที่มา: Siam.wiki

และอีกประเด็นที่ปฏิเสธไม่ได้ ในทางภูมิศาสตร์ ยูเครนถือว่า เป็นพื้นที่ยุทธศาสตร์สำคัญของรัสเซียที่สามารถเชื่อมต่อกับประเทศแถบยุโรปได้ ไม่ว่าจะเป็นการขนส่งทางบน อากาศ หรือแม้กระทั่งท่อก๊าซ เนื่องจากเป็นบริเวณที่สามารถส่งออกไปยังทะเลดำ หรือ Black Sea ที่เรารู้จักกันดี ซึ่งหากดูจากแผนที่ด้านล่างจะเห็นว่า ทะเลดำเป็นเส้นทางสำคัญในการส่งออกน้ำมัน เพื่อกระจายไปยังประเทศต่าง ๆ ทั่วโลกได้ เช่น บัลแกเรีย และตุรกี จึงไม่ใช่เรื่องที่น่าแปลกใจ หากรัสเซียต้องการยึดยูเครนกลับมาครอบครองเช่นเดิม

วิกฤตรัสเซีย-ยูเครน
ที่มา: Wikipedia

อีกทั้ง ทางเยอรมันได้เลื่อนการอนุมัติท่อก๊าซ Nord Stream2 ซึ่งเป็นโครงการที่ขนส่งก๊าซจากรัสเซียไปยังเยอรมัน โดยไม่ผ่านพื้นที่ของยูเครน สาเหตุนี้ก็อีกหนึ่งเป็นปัจจัยที่ส่งเสริมให้รัสเซียเข้ายึดยูเครน เนื่องจากรัสเซียจะได้เป็นเจ้าของท่อก๊าซในยูเครนโดยตรง

นอกจากนั้น บรรยากาศการเมืองในประเทศยูเครนที่กำลังตึงเครียด ยังเป็นอีกหนึ่งปัจจัยที่สนับสนุนในการยึดยูเครนครั้งนี้เช่นกัน เนื่องจากความนิยมของรัฐบาลภายใต้การดูแลของเซเลนสกี (ประธานาธิบดียูเครน) ถือว่าตกต่ำสุดขีด ส่งผลให้หากรัสเซียทำการยึดยูเครนเรียบร้อยแล้ว จะสามารถจัดการสถานการณ์ได้ไม่ยาก และที่สำคัญยังส่งเสริมให้ความนิยมของปูติน (ประธานาธิบดีรัสเซีย) สูงขึ้นตามไปด้วย

อย่างไรก็ตาม วิกฤตรัสเซีย-ยูเครน ครั้งนี้ ส่งผลให้นักลงทุนโยกย้ายเงินมาลงทุนในสินทรัพย์ปลอดภัยอย่าง ทองคำ และน้ำมัน ทำให้สินค้าเหล่านี้มีราคาสูงสุดในรอบหลายปี อีกทั้ง ยังทำให้อัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐ อายุ 10 ปี (Bond Yield) มีอัตราเร่งตัวขึ้นอีกด้วย เนื่องจากเป็นสินทรัพย์ปลอดภัยเช่นเดียวกัน ที่สำคัญปัจจัยเหล่านี้จะดันให้เงินเฟ้อทะยานสูงขึ้นกว่าเดิม และธนาคารกลางหลายประเทศคงต้องปรับแนวโน้มการขึ้นดอกเบี้ยใหม่ ดังนั้น โลกอาจเกิดวิกฤตครั้งใหญ่ หากระงับความขัดแย้งนี้ไม่ได้


อ่านบทความอื่น ๆ เพิ่มเติม: สาระน่ารู้

พูดคุยและติดตาม Real Time: Facebook Page

Social Share
Facebook
Twitter
Picture of Traderbobo
Traderbobo

นักลงทุนในตลาด Forex และสินทรัพย์ทางการเงินด้วยประสบการณ์กว่า 10 ปี มุ่งเน้นการนำเสนอเนื้อหาที่เข้าใจง่าย พร้อมแบ่งปันความรู้และกลยุทธ์การเทรด เพื่อช่วยให้คุณประสบความสำเร็จในโลกการเงิน เหมาะสำหรับทั้งเทรดเดอร์มือใหม่และมืออาชีพ

บทความน่าสนใจ
Adsense
Table of Contents
บทความน่าสนใจ
Adsense
Top Forex Brokers
IUX
Rated 5 out of 5
GO Markets
Rated 3.5 out of 5
EIGHTCAP
Rated 4 out of 5
Advertisement
FBS
Rated 3 out of 5
Pepperstone
Rated 2 out of 5
IUX
Rated 5 out of 5
FXGT.com
Rated 3.5 out of 5
EIGHTCAP
Rated 4 out of 5
Advertisement
FBS
Rated 3 out of 5
Pepperstone
Rated 2 out of 5