5 ข้อสุดกวน ชวนให้นักลงทุนมือใหม่กว่า 90% “ขาดทุนจากคริปโต”

Table of Contents
ขาดทุนจากคริปโต

รู้ไหมว่าทำไมอยู่ดี ๆ ก็ “ขาดทุนจากคริปโต” ?

นั่นเพราะว่าตลาดคริปโตมีเรื่องอะไรมากกว่าที่เรารู้ เป็นเรื่องที่มันเข้ามาชวนให้นักลงทุนแบบเรา ขาดทุนจากคริปโต ได้ง่าย ๆ ไม่ใช่แค่เรื่องของสภาพเศรษฐกิจ ข่าวสารเรื่องสงคราม หรือภาวะเงินเฟ้อที่สูงขึ้นเรื่อย ๆ จนไปถึงนโยบายการปรับอัตราดอกเบี้ยของธนาคาร จากที่ผมกล่าวมาทั้งหมดนี้ต่างก็มีผลต่อความผันผวนในตลาดคริปโตเคอเรนซี่ทำให้เราขาดทุนจากคริปโต จนบางคนพอร์ตติดลบกว่า 50%  แต่มันไม่ใช่ปัจจัยทั้งหมด มันยังมีมากกว่านั้นครับ

อย่างที่เราทราบกันดีว่า ตลาดคริปโตเคอเรนซี่ มันทำให้คนธรรมดาสามารถกลายเป็นเศรษฐีได้ในชั่วข้ามคืน แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้ว่า ยังมีอีกหลายคนเหมือนกันที่ต้อง “ขาดทุน” ถึงขั้นรุนแรงจนคิดจะจบชีวิตตัวเอง เพราะทุกคนที่เข้ามาลงทุนในตลาดคริปโตเคอเรนซี่นี้ล้วนมีความคิดเหมือนกันว่า เข้ามาแล้วฉันจะต้องได้กำไรกลับไป

จากข้อมูลที่ผมได้ไปรวบรวมมาทำให้ผมเห็นได้ชัดเลยว่า จำนวนนักลงทุนในคริปโตเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว ตัวเลขที่ผมนำมาจาก กลต. แสดงให้เห็นว่า ปัจจุบันประเทศไทยมีนักลงทุนเกือบ 1 ล้านบัญชีแล้ว คงเป็นเพราะความที่ตลาดคริปโตมีความผันผวนสูง และมีคนมองว่า มันเป็น “ตลาดซิ่ง” สามารถทำกำไรได้อย่างมหาศาล อย่างไรก็ตาม ยังคงมีบางคนมองข้ามเรื่องที่เราสามารถ ขาดทุนจากคริปโต อย่างมหาศาลได้เช่นกัน

นั่นจึงทำให้เราต้องเตรียมตัว ติดตามข่าวสาร เตรียมขาดทุน และเตรียมได้กำไรก้อนโต เพราะผมจะมาแบ่งปัน 5 ข้อสุดกวนในตลาดคริปโตที่คุณต้องอ่าน ไม่งั้นคุณจะเป็น 1 ใน 90% ของนักลงทุนที่ ขาดทุนจากคริปโต เหมือนคนทั่วไป


5 ข้อสุดกวน ชวนนักลงทุนคริปโตมือใหม่กว่า 90% ขาดทุนจากคริปโต

1. ขาดทุนจากคริปโต ยับ เพราะ Twitter คนดัง

ขาดทุนจากคริปโต

มาเริ่มกันที่ข้อแรกครับ อย่างที่เราต่างรู้กันดีว่า ตลาดคริปโตนั้นมีหลายเหรียญที่ไม่มีพื้นฐาน บางเหรียญถูกสร้างขึ้นมาเพื่อเป็นแค่มีมขำ ๆ เท่านั้น แต่ทำไมมันถึงมีมูลค่ามหาศาล ? ผมขอพูดตรง ๆ เลยว่า “มันมีคนปั่นราคา”

ผมจะทำให้คุณเข้าใจได้ง่ายขึ้นด้วยการเปรียบเทียบกับตลาดหุ้น เพราะเมื่อเวลาเราจะลงทุนในหุ้นสักตัว เราต้องดูพื้นฐาน ดูความน่าเชื่อถือของบริษัทว่า บริษัทที่เราลงทุนไปนั้นจะสามารถสร้างรายได้ และแบ่งปันผลกำไรให้เราได้หรือไม่

ซึ่งมันต่างกับตลาดคริปโตสิ้นเชิง  เพราะการขึ้นลงของราคานั้น สามารถปั่นได้จากเหล่าคนดัง หรือผู้ที่มีอิทธิพลในช่องทาง Social Media  โดยพวกเขาจะเป็นกระบอกเสียงที่พูดถึงราคาคริปโต และพูดถึงโปรเจกต์เบื้องหลังต่าง ๆ ว่าจะมีการพัฒนาไปอย่างนั้นอย่างนี้ ไม่ว่าจะเป็น Joe Biden  หรือ Elon Musk ที่มาทวิตเกี่ยวกับ Doge coin บ่อย ๆ แล้วยังมีอีกคนหนึ่งที่ผมจะไม่พูดถึงไม่ได้เลย

นั่นเพราะผมก็ติดตามเขาอยู่เหมือนกัน คนนั้นคือ คุณบอยท่าพระจันทร์ ที่ชอบมาโพสต์ใน Social Media ซึ่งพี่เขาเป็นวาฬในตระกูลเหรียญไทยอย่างเหรียญ KUB และเหรียญ JFin

จากเหล่าคนดังที่ผมได้พูดไปข้างต้น จึงไม่แปลกเลยว่า ทำไมสินทรัพย์อย่าง Cryptocurrency  ถึงราคาถึงเหวี่ยงขึ้นลงอย่างรุนแรง นั่นก็เพราะความเชื่อมั่นของเหล่านักลงทุนรายย่อย (เม่า) ผูกไว้กับนักลงทุนรายใหญ่ มันเลยทำให้เวลาเหล่าคนดังเคลื่อนไหวนิดเดียวก็ทำให้ตลาดสั่นคลอนได้นั่นเอง

2. ขาดทุนคริปโต เพราะตลาดเหวี่ยงจากแก๊งตี 3

ขาดทุนจากคริปโต

ขั้นแรกเลยผมอยากให้เราเตือนตัวเองทุกครั้งก่อนทำการซื้อขาย เพราะในตลาดคริปโตนั้นมีความผันผวนตลอดเวลา  บางเหรียญสามารถพุ่งขึ้นสูงได้ถึง 500% แต่มันก็ลงได้ 500% เช่นกัน เพราะว่าตลาดนี้ เขาซื้อขายกันตลอด 24 ชั่วโมง ไม่มีเวลาตลาดปิดเหมือนตลาดหุ้น หรือตลาด Forex เลยทำให้เทรดเดอร์ซื้อขายกันทั่วโลก และปั่นกันได้ทั้งวัน

ทำไมผมถึงตั้งหัวข้อว่า “ขาดทุนจากแก๊งตี 3” เพราะในโซนเอเชียนั้น เราจะเรียกนักลงทุนจากชาติตะวันตกว่า แก๊งตี 3 ซึ่งถ้าใครอยู่ในตลาดคริปโตมาสักพัก คุณจะเห็นการเหวี่ยงของราคาในช่วงดึก หรือบางวันมันอาจเหวี่ยงตอนตี 3 เป๊ะ ๆ นั่นเพราะมันเป็นช่วงที่นักลงทุนทางฝั่งตะวันตกตื่นขึ้นมาเทรดกัน แล้วถ้าคุณตื่นมาแล้วพอร์ตติดลบไปก็ไม่ต้องแปลกใจ

3. ขาดทุนจากคริปโต เพราะเชื่อในเทคโนโลยีบล็อกเชนของเหรียญกาว

ขาดทุนจากคริปโต

ผมต้องยอมรับว่า บล็อกเชนเป็นเทคโนโลยีที่น่าทึ่งมาก เพราะมันทำให้โลกการเงินโปร่งใสขึ้นเยอะจากการกระจายศูนย์ที่ไม่มีคนกลางมาควบคุม หรือที่เราเรียกว่า Decentralized โดยการทำงานของมันจะถูกแบ่งออกเป็น Block เพื่อเก็บข้อมูล และถูกนำมาเรียงร้อยต่อกันเป็น Chian ทำให้ทุกคนสามารถเห็นข้อมูลการทำธุรกรรมบนเทคโนโลยีบล็อกเชนนี้ได้ทั้งหมด เพราะจุดเด่นของ Blockchain คือ การใช้คอมพิวเตอร์มาช่วยตรวจสอบการทำธุรกรรม และตัดตัวกลางทิ้งไป

จากความเชื่อว่า Blockchain มันจะมาเปลี่ยนโลกการเงินในปัจจุบัน แล้วนำพาเราไปสู่โลกการเงินที่โปร่งใส สามารถตรวจสอบได้ ตัวผมเองก็เชื่ออย่างนั้น แต่ทำไมผมถึงตั้งหัวข้อว่า “ขาดทุนเพราะเชื่อในเทคโนโลยีบล็อกเชนล่ะ ?”

ต้องบอกก่อนว่า มันสามารถตรวจสอบได้จริง ๆ ครับ แต่ทำไมเรายังเห็นข่าวที่ออกมานำเสนอเรื่องการแฮกระบบในวงการสินทรัพย์ดิจิทัลแทบทุกอาทิตย์ เพราะมีหลายโปรเจ็คที่เพิ่งเปิดตัวมาแล้วเขียน Road Map ที่มันน่าสนใจเอามาก ๆ ทำให้ดึงดูดเม่าอย่างพวกเราเข้าไปลงทุนกันจนมองข้ามความสำคัญของความปลอดภัยในระบบ ทำให้เกิดช่องโหว่ที่แฮกเกอร์จะเข้ามาแฮกระบบแล้วชิ่งเงินเราหนีไป

ดังนั้น วิธีป้องกันเงินหายจากการโดนแฮก คือ ก่อนลงทุนเราต้องศึกษาตัวเหรียญนั้น ๆ ให้ดีก่อนครับ เพราะเทคโนโลยี Blockchain มันล้ำ และปลอดภัยอยู่แล้ว แต่ถ้าเลือกถือเหรียญกาวก็ไม่มีความหมายครับ

4. ขาดทุนคริปโต เพราะบอกว่าเหรียญมีจำกัด แต่ดันผลิตออกมาเพิ่ม

ขาดทุนจากคริปโต

ในข้อนี้ ผมจะเล่าถึงไอเดียของเหรียญคริปโตแต่ละเหรียญที่รันอยู่บน Blockchain ซึ่งเหรียญเหล่านี้ถูกสร้างขึ้นมาด้วย Project และจุดประสงค์ที่แตกต่างกันใช่ไหมครับ บางเหรียงถูกสร้างขึ้นมาเพื่อเป็น Smart Contract บางเหรียญถูกสร้างขึ้นมาเพื่อเป็นมีม บางเหรียงถูกสร้างขึ้นมาเพื่อใช้ในเกม และบางเหรียญถูกสร้างขึ้นมาเพื่อเป็น Store of Value ทำให้เวลาเราลงทุน เราต้องศึกษาดูก่อนว่า เหรียญนี้ถูกสร้างขึ้นมาเพื่ออะไร

เพราะแต่ละเหรียญจะมีมูลค่าในตัวของมันเอง อย่างเหรียญคริปโตอันดับ 1 ที่เราต่างก็รู้ดีว่า คือ Bitcoin ที่หลายท่านรู้จัก ใช่แล้วครับ! มันมีจำนวนจำกัด ซึ่งมีแค่ 21 ล้านเหรียญเท่านั้น และมันมีมูลค่าในตัวของมันเอง จึงทำให้นักลงทุนหลายคนมองว่า มันจะเป็นสินทรัพย์ในโลกอนาคต ผมเองก็มองแบบนั้นเช่นกัน แล้วทำไมผมถึงบอกว่า “อยู่ดี ๆ ก็ขาดทุน เพราะเหรียญที่ผลิตออกมาใหม่ได้ ?”

เพราะมันมีหลายเหรียญที่สร้างขึ้นมาแล้วประกาศว่า ตัวเองมีจำนวนจำกัด แต่เมื่อสภาพคล่องของเหรียญนั้นเกิดปัญหา ผู้พัฒนาเลยเสกเหรียญขึ้นมาเพิ่มซะงั้น ทำให้มูลค่าและความน่าเชื่อถือของมันลดวูบลงจนแทบไม่มีมูลค่า ดังนั้น นักลงทุนจึงคิดว่า เหรียญนี้ไม่มีค่า ผู้พัฒนาจะเสกออกมาเมื่อไหร่ก็ได้!

วิธีป้องกันปัญหานี้คือ ก่อนที่เราจะลงทุนเราต้องไปศึกษาพื้นฐานของนั้นจริง ๆ ว่ามันถูกสร้างขึ้นมาเพื่อโปรเจคอะไร ใช้ทำอะไรได้จริง ๆ ไม่ใช่แค่เขียน Road Map สวย ๆ เท่านั้น

5. วิเคราะห์กราฟคริปโตอย่างดี ดันมาขาดทุนเพราะวาฬ

ขาดทุนจากคริปโต

มาถึงข้อสุดท้าย ผมต้องบอกก่อนว่า ในทุกตลาด ทุกสังคม มันมักจะมีเจ้ามือ อย่างในตลาดหุ้นเราจะเรียกคนกลุ่มนี้ว่า ‘เจ้า’ ส่วนในตลาดคริปโตเราจะเรียกพวกเขาว่า ‘วาฬ’ หรือจะพูดง่าย ๆ ก็คือ กลุ่มคนที่ถือคริปโตจำนวนมหาศาลหลักร้อยล้านถึงหมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ จึงทำให้การซื้อขายของคนกลุ่มนี้ส่งผลต่อตลาดโดยรวมเป็นอย่างมาก เราจะเห็นการเคลื่อนไหวของพวกเขาได้ชัดจากการเกิดกราฟแท่งเทียน 8 เมตร ซึ่งเป็นสัญญาณจากการซื้อขายของเหล่าวาฬครับ

แล้วทำไมคนกลุ่มนี้ถึงส่งผลต่อตลาดคริปโตได้ขนาดนั้น ผมต้องบอกก่อนว่า ถ้าเทียบมูลค่ากับตลาดหุ้นแล้ว ตลาดคริปโตจะมีมูลค่าน้อยกว่ามาก ทำให้ผู้ที่มีทุนเข้ามามีอิทธิพลในวงการคริปโตได้ไม่ยากเลย ทำให้การปั่นราคาเกิดขึ้นได้ง่ายมาก ๆ จากการเทขายเหรียญจำนวนมากของวาฬ

จากเหตุผลนี้จึงทำให้นักลงทุนที่เป็นเม่าอย่างพวกเราต้องคอยติดตามการเคลื่อนไหวของวาฬอย่างใกล้ชิดผ่านช่องทางต่าง ๆ ทั้ง Twitter, Whale Alert เพื่อป้องกันการ ขาดทุนจากคริปโต แบบไม่รู้ตัว


5 ข้อ ที่ผมได้กล่าวไปข้างต้นนี้ บางคนอ่านไปก็คิดไปด้วยใช่ไหมล่ะครับ เพราะเหตุการณ์ 5 ข้อนี้ มันกวนนักลงทุนรายย่อยแบบพวกเราแทบทุกวัน แต่บางคนก็ดีใจที่ตามทันแล้วสามารถทำกำไรกลับมาเข้ากระเป๋าได้ง่าย ๆ เช่นกัน แต่สำหรับบางคนที่ไม่ได้ติดตามก็คงมีการติดลบกันบ้าง

ส่วนวิธีป้องกัน 5 ข้อนี้ ผมต้องบอกก่อนว่า มันไม่มีวิธีที่จะสามารถป้องกันได้ 100% เพราะเราไม่สามารถอ่านใจคนอื่นได้ และไม่สามารถรู้ล่วงหน้าได้ว่าพวกวาฬ หรือเหล่าคนดังจะปั่นราคาไปทิศทางไหน

ทางที่ดีคือ เราต้องศึกษาพื้นฐานของเหรียญนั้นให้ดีซะก่อน ต้องคำถึงให้ครบทุกด้านก่อนลงทุน และขั้นตอนต่อมาคือ ต้องศึกษาการวิเคราะห์เชิงเทคนิค การดูสัญญาณของกราฟให้เป็น และการติดตามข่าวสาร Twitter คนดัง มันจะช่วยให้คุณมองเห็นภาพมากกว่าคนที่ไม่ติดตาม ไม่ศึกษาอะไรเลยครับ แล้วเมื่อไหร่ที่คุณมองภาพรวมออก วันนั้นแหละประสบการณ์ของคุณมันจะช่วยทำกำไรให้คุณเองครับ

ไว้พบกันใหม่ ผม Traderโบ้โบ้ จะมาเล่าบทความให้ทุกคนได้อ่านกันอีก ไว้พบกันใหม่นะครับ


อ่านบทความอื่น ๆ เพิ่มเติม: สาระน่ารู้

พูดคุยและติดตาม Real Time: Facebook Page

Social Share
Facebook
Twitter
Picture of Traderbobo
Traderbobo

นักลงทุนในตลาด Forex และสินทรัพย์ทางการเงินด้วยประสบการณ์กว่า 10 ปี มุ่งเน้นการนำเสนอเนื้อหาที่เข้าใจง่าย พร้อมแบ่งปันความรู้และกลยุทธ์การเทรด เพื่อช่วยให้คุณประสบความสำเร็จในโลกการเงิน เหมาะสำหรับทั้งเทรดเดอร์มือใหม่และมืออาชีพ

บทความน่าสนใจ
Adsense
Table of Contents
บทความน่าสนใจ
Adsense
Top Forex Brokers
IUX
Rated 5 out of 5
GO Markets
Rated 3.5 out of 5
EIGHTCAP
Rated 4 out of 5
Advertisement
FBS
Rated 3 out of 5
Pepperstone
Rated 2 out of 5
IUX
Rated 5 out of 5
FXGT.com
Rated 3.5 out of 5
EIGHTCAP
Rated 4 out of 5
Advertisement
FBS
Rated 3 out of 5
Pepperstone
Rated 2 out of 5