สอบกองทุน Forex คืออะไร? พร้อมแนะนำกองทุนไหนดี ปี 2025

การสอบกองทุน Forex คือ โอกาสที่คุณจะได้รับเงินทุนไปใช้ในการเทรด และแบ่งกำไรกับกองทุนตามสัดส่วนที่ตกลงกันไว้ ซึ่งผู้ที่สอบผ่านเท่านั้นจึงจะได้รับสิทธิ์นี้ไป! 🚀

ในบทความนี้ Traderbobo จะพาคุณไปทำความรู้จักกับการ “สอบกองทุน Forex” ตั้งแต่พื้นฐาน ตลอดจนข้อดี-ข้อเสีย รวมถึงแนะนำกองทุนที่น่าสนใจ เพื่อให้คุณสามารถตัดสินใจได้อย่างมั่นใจว่า กองทุน Forex ไหนดีที่จะเหมาะกับคุณครับ

*หมายเหตุ: การลงทุนทุกประเภทมีความเสี่ยง ผู้ลงทุนควรศึกษาข้อมูลและความเสี่ยงอย่างรอบคอบ ทั้งนี้ บทความนี้เป็นเพียงการให้ความรู้เท่านั้น

. . . . . . . . . . . . . . .

การสอบกองทุน Forex คืออะไร?

การสอบกองทุน Forex คือ กระบวนการคัดเลือกเทรดเดอร์ที่จะได้รับเงินทุนจาก Proprietary Trading Firm (Prop Firm) เพื่อนำไปใช้ในการเทรดโดยไม่ต้องใช้เงินทุนตัวเอง

ซึ่งหากคุณสามารถสอบผ่านได้ คุณจะได้รับบัญชีจริงพร้อมเงินทุน และเมื่อคุณเทรดได้กำไร ต้องทำการแบ่งกำไรกับกองทุนนั้น ๆ ตามสัดส่วนที่กำหนดไว้ในเงื่อนไขครับ

ข้อดี-ข้อเสียในการสอบกองทุน Forex

การสอบกองทุนฟอเร็กซ์เหมาะกับใคร?

• เหมาะกับเทรดเดอร์ที่มีประสบการณ์ และจำเป็นต้องมีวินัยในการเทรดค่อนข้างสูง
• เหมาะกับเทรดเดอร์ที่มีความสามารถ แต่อาจไม่มีเงินทุนในการเทรด
• เหมาะกับเทรดเดอร์ที่ยอมรับข้อตกลงในการแบ่งกำไรกับกองทุนได้
• เหมาะกับผู้ที่ต้องการความมั่นคงในการเทรดเป็นอาชีพ

สอบกองทุน Forex ได้อะไรบ้าง?

การสอบกองทุนฟอเร็กซ์ไม่เพียงแต่ได้ฝึกฝนกลยุทธ์และการวางแผนเท่านั้น แต่หากคุณสอบผ่านจนกลายเป็น “เทรดเดอร์ของกองทุน” ได้ คุณจะได้รับสิทธิประโยชน์อีกมากมาย ดังนี้

1. ได้รับบัญชีจริงของกองทุนพร้อมเงินทุน (Funded Account)

หลังจากที่คุณสอบผ่านแล้ว คุณจะได้รับบัญชีเทรดจริงที่มีขนาดทุนตั้งแต่ $5,000 – $500,000 ขึ้นอยู่กับกองทุนที่เลือกสมัคร ซึ่งช่วยสร้างกำไรให้คุณได้โดยไม่ต้องใช้เงินทุนของตัวเอง

2. แบ่งกำไรจากการเทรด (Profit Split)

การแบ่งกำไร (Profit Split) เป็นจุดเด่นสำคัญของการสอบกองทุน Forex ซึ่งแต่ละกองทุนจะมีสัดส่วนที่ไม่เท่ากัน ตัวอย่างเช่น

• 70/30 → เทรดเดอร์ได้ 70%, กองทุนได้ 30%
• 80/20 → เทรดเดอร์ได้ 80%, กองทุนได้ 20%
• 90/10 → เทรดเดอร์ได้ 90%, กองทุนได้ 10%

และในบางกองทุนอาจมีการเพิ่มสัดส่วนกำไรให้เทรดเดอร์ที่สามารถทำผลงานได้ดีอย่างต่อเนื่อง (ในแต่ละกองทุนจะมีการกำหนดไว้อยู่แล้วครับว่า ในแต่ละเดือนคุณต้องทำกำไรได้กี่ % ของเงินทุน ซึ่งหากคุณสามารถทำได้มากกว่าเป้าหมาย กองทุนอาจยื่นข้อเสนออื่น ๆ เพิ่มเติมให้กับคุณ)

3. มีโอกาสขยายพอร์ตการลงทุนด้วยการจัดการที่ดี

เมื่อสอบผ่านและเทรดมีกำไร คุณสามารถสร้างรายได้ประจำจากการเทรดโดยไม่ต้องใช้ทุนของตัวเองได้ ดังนี้

• บางกองทุนมี Scaling Plan ที่เพิ่มเงินทุนให้ หากคุณสามารถทำกำไรต่อเนื่อง เช่น จาก $50,000 → $100,000
• ช่วยให้เทรดเดอร์มีโอกาสเติบโต และทำเงินได้มากขึ้น

4. ฝึกฝนวินัยและกลยุทธ์การเทรด Forex

ในแต่ละกองทุนมักจะมีข้อกำหนด เช่น Daily Drawdown, Max Drawdown และ Risk Management ที่คุณต้องทำให้ได้ตามที่กำหนดไว้ ซึ่งสิ่งเหล่านี้จะช่วยให้คุณมีวินัย และวางแผนการเทรดได้ดียิ่งขึ้น

5. ได้รับการสนับสนุนจากกองทุน Forex

กองทุนส่วนใหญ่จะมีเครื่องมือช่วยเหลือมอบให้กับเทรดเดอร์ของกองทุน รวมถึงการปรึกษาตัวต่อตัวกับเทรดเดอร์มืออาชีพ เพื่อนำไปปรับใช้พอร์ตลงทุนของตัวเอง โดยมีการสนับสนุนส่วนใหญ่ ดังนี้

• คอร์สเรียนเสริมเกี่ยวกับการเทรด
• เครื่องมือวิเคราะห์ตลาดเชิงลึก
• บัญชีเทรดแบบไม่มีค่า Swap หรือ Spread ต่ำ
• การปรึกษาเทรดเดอร์มืออาชีพแบบตัวต่อตัว

ระบบการสอบกองทุน Forex มีอะไรบ้าง?

ระบบการสอบกองทุน Forex แบ่งออกเป็น 2 แบบหลัก ๆ ได้แก่ กองทุนที่ใช้ระบบสอบหลายขั้นตอน และกองทุนที่ใช้ระบบสอบขั้นเดียว โดยในแต่ละประเภทจะมีเงื่อนไข และรายละเอียดที่แตกต่างกันออกไป ดังนี้

1. กองทุนที่ใช้ระบบสอบขั้นเดียว (1-Step Evaluation Prop Firm)

• เทรดเดอร์ต้องผ่านการสอบเพียง 1 ขั้นตอน เท่านั้น
• เป้าหมายการทำกำไรมักจะสูงกว่ากองทุนแบบสองขั้นตอน เช่น 10-12%
• บางกองทุนอาจให้เทรดบัญชีทดลองก่อน หรือให้เริ่มเทรดบัญชีจริงได้เลย

2. กองทุนที่ใช้ระบบสอบหลายขั้นตอน (2-Step Evaluation Prop Firm)

• เทรดเดอร์ต้องผ่านการสอบ 2 ขั้นตอน (เฟสแรกและเฟสสอง)
• มีเป้าหมายการทำกำไร เช่น 8-10% ในเฟสแรก และ 4-5% ในเฟสสอง
• ต้องรักษาวินัยตามกฎ เช่น Daily Drawdown และ Max Drawdown
• เมื่อผ่านการสอบจะได้รับบัญชีจริง

*หมายเหตุ: กองทุนส่วนใหญ่มักจะมีโปรแกรมให้เทรดเดอร์เลือกสอบทั้งแบบ 1-Step และ 2-Step (บางกองทุนอาจมีมากถึง 3-Step) ซึ่งคุณควรอ่านเงื่อนไขต่าง ๆ อย่างละเอียดก่อนตัดสินใจสมัครสอบครับ

วิธีเลือกกองทุน Forex ก่อนสมัครสอบ

• ตรวจสอบเงื่อนไขของกองทุน เช่น เป้าหมายกำไร, กฎการเทรด และ Scaling Plan
• เปรียบเทียบค่าสมัครสอบ และโอกาสคืนเงินค่าสมัคร
• พิจารณาส่วนแบ่งกำไร และเงื่อนไขการจ่ายเงิน
• พิจารณาว่า กองทุนรองรับสินทรัพย์ที่คุณต้องการเทรดหรือไม่ เช่น Forex, Futures, Crypto และอื่น ๆ
• อ่านรีวิวและตรวจสอบความน่าเชื่อถือของกองทุนก่อนทุกครั้ง

. . . . . . . . . . . . . . .

สมัครสอบกองทุน Forex ไหนดี? ปี 2025

ในหัวข้อนี้ Traderbobo ได้รวบรวม 5 กองทุน Forex ตัวท็อปที่น่าสนใจ ในปี 2025 พร้อมรีวิวฉบับเต็ม เพื่อเป็นข้อมูลประกอบการตัดสินใจของเทรดเดอร์ทุกท่านครับ โดยมีรายชื่อดังต่อไปนี้

• กองทุน FTMO
• กองทุน The5%ers
• กองทุน Fundednext
• กองทุน Topstep
• กองทุน Axi Select

ตารางเปรียบเทียบสอบกองทุน Forex ไหนดี?

1. กองทุน FTMO

FTMO คือ บริษัท Prop Trading ที่เปิดโอกาสให้เทรดเดอร์สามารถเข้าถึงเงินทุน เพื่อซื้อขาย Forex และสินทรัพย์อื่น ๆ โดยต้องผ่านการทดสอบ FTMO Challenge ก่อนจึงจะได้รับบัญชีซื้อขายที่มีเงินทุนจริง

ค่าสมัครสอบและเงินทุน

• บัญชี $200,000 → ค่าสมัครสอบ €1,080
• บัญชี $100,000 → ค่าสมัครสอบ €540
• บัญชี $50,000 → ค่าสมัครสอบ €345
• บัญชี $25,000 → ค่าสมัครสอบ €250
• บัญชี $10,000 → ค่าสมัครสอบ €155

หมายเหตุ: ค่าสมัครสอบสามารถขอคืนได้หากนักเทรดผ่านการทดสอบและได้รับบัญชี FTMO Funded

ส่วนแบ่งกำไรของกองทุน Forex

สูงสุด 90/10 → เทรดเดอร์ได้ 90% และกองทุนได้ 10%

สรุปจุดเด่นของกองทุน FTMO

• มีโปรแกรมให้เลือกสมัครหลายแบบตามความสนใจ
• ให้ส่วนแบ่งกำไรสูงสุดถึง 90%
• ค่าสมัครสอบสามารถขอคืนได้เมื่อสอบผ่าน
• ได้รับความนิยมมากที่สุดในกลุ่มเทรดเดอร์

➡️อ่านต่อ: รีวิวสอบ FTMO ฉบับเต็ม

2. กองทุน The5%ers

The5%ers คือ บริษัท Prop Trading ที่ให้เงินทุนแก่เทรดเดอร์ โดยมุ่งเน้นไปที่การเทรดระยะยาวผ่านการเติบโตของบัญชีเงินทุน โดยไม่จำเป็นต้องรับความเสี่ยงเองครับ นอกจากนี้ยังมีให้เลือกทั้งการสอบแบบ 1-Step และ 3-Step

ค่าสมัครสอบและเงินทุน

• Hyper Growth → เงินทุนสูงสุด $40,000 → ค่าสมัครสอบ $850
• High Stakes → เงินทุนสูงสุด $100,000 → ค่าสมัครสอบ $495
• Bootcamp → เงินทุนสูงสุด $250,000 → ค่าสมัครสอบ $225 (มีค่าธรรมเนียมเพิ่มเติม $350)

ส่วนแบ่งกำไรของกองทุน Forex

สูงสุด 100% → มีเงื่อนไขในการทำกำไรเพิ่มเติม

สรุปจุดเด่นของกองทุน The5%ers

• มีโปรแกรมหลากหลายให้เลือกสอบ
• ให้ส่วนแบ่งกำไรสูงสุด 100%
• มีระบบช่วยพัฒนา และขยายบัญชีเงินทุนให้เติบโตได้ในระยะยาว

➡️อ่านต่อ: รีวิวสอบ The5%ers ฉบับเต็ม

3. กองทุน Fundednext

Fundednext คือ บริษัท Prop Trading ที่ให้เงินทุนและส่วนแบ่งกำไรสูงสุด 95% พร้อมเงื่อนไขการเทรดที่ยืดหยุ่น และแบ่งกำไรให้เทรดเดอร์ตั้งแต่ช่วงทดสอบเลยครับ

ค่าสมัครสอบและเงินทุน

• Stellar → เงินทุนสูงสุด $200,000 → ค่าสมัครสอบ $999 – $1,099
• Stellar Lite → เงินทุนสูงสุด $100,000 → ค่าสมัครสอบ $399
• Evaluation → เงินทุนสูงสุด $200,000 → ค่าสมัครสอบ $999
• Express → เงินทุนสูงสุด $200,000 → ค่าสมัครสอบ $699 – $999

ส่วนแบ่งกำไรของกองทุน Forex

สูงสุด 95/5 → เทรดเดอร์ได้ 95% และกองทุนได้ 5%

สรุปจุดเด่นของกองทุน Fundednext

• ส่วนแบ่งกำไรสูงสุด 95%
• ไม่จำกัดเวลาในช่วงทดสอบ (ขึ้นอยู่กับโปรแกรมที่คุณเลือกสอบ)
• อนุญาตให้เทรดในช่วงข่าว (มีเงื่อนไขเพิ่มเติม)
• รองรับแพลตฟอร์มการเทรดหลากหลาย
• แบ่งกำไรให้เทรดเดอร์ตั้งแต่ช่วงสอบ (ขึ้นอยู่กับโปรแกรมที่คุณเลือกสอบ)

➡️อ่านต่อ: รีวิวสอบ Fundednext ฉบับเต็ม

4. กองทุน Topstep

Topstep คือ บริษัท Prop Trading ที่แตกต่างจากกองทุน Forex ทั่วไป เพราะเน้นการให้เงินทุนไปที่ Futures Trading โดยเทรดเดอร์ต้องผ่านการทดสอบ Trading Combine ซึ่งเป็นการจำลองการเทรดในสภาวะตลาดจริง ทั้งนี้ เทรดเดอร์ต้องจ่ายค่าสมัครเป็นรายเดือน

ค่าสมัครสอบและเงินทุน

• บัญชี $50,000 → ค่าสมัครสอบ $165/เดือน
• บัญชี $100,000 → ค่าสมัครสอบ $325/เดือน
• บัญชี $150,000 → ค่าสมัครสอบ $375/เดือน

*หมายเหตุ: หลังจากผ่านการทดสอบ เทรดเดอร์ต้องจ่ายค่าธรรมเนียมเปิดบัญชีจริง $149

ส่วนแบ่งกำไรของกองทุน Forex

• 100% → สำหรับกำไร $10,000 แรก
• 90% → สำหรับกำไรก้อนถัดไป

สรุปจุดเด่นของกองทุน Topstep

• ให้ส่วนแบ่งกำไร 100% สำหรับ $10,000 แรก
• ไม่จำกัดเวลาในการสอบ
• รองรับแพลตฟอร์มการเทรดที่หลากหลาย
• มี Trading Coach ให้คำแนะนำ และช่วยเทรดเดอร์พัฒนากลยุทธ์การเทรด

➡️อ่านต่อ: รีวิวสอบ Topstep ฉบับเต็ม

5. กองทุน Axi Select

Axi Select คือ กองทุนที่จัดตั้งขึ้นโดย AxiTrader เพื่อคัดเลือกเทรดเดอร์ที่มีความสามารถ โดยไม่มีค่าสมัครแต่เทรดเดอร์ต้องเริ่มต้นด้วยเงินทุนตัวเอง $500 เพื่อพิชิตเงินทุนสูงสุด $100,000 ซึ่งขึ้นชื่อด้านความยากเลยครับ

ค่าสมัครสอบและเงินทุน

• บัญชี $100,000 → ไม่มีค่าสมัครสอบ
• ต้องเริ่มต้นด้วยเงินทุนตัวเอง $500

ส่วนแบ่งกำไรของกองทุน Forex

สูงสุด 90/10 → เทรดเดอร์ได้ 90% และกองทุนได้ 10%

สรุปจุดเด่นของกองทุน Axi Select

• ไม่มีค่าสมัครสอบหรือค่าธรรมเนียมรายเดือน
• ส่วนแบ่งกำไรสูงสุด 90%
• มีระบบประเมินผล Edge Score
• มีโอกาสขยายเงินทุนได้มากถึง $1,000,000 (ขึ้นอยู่กับเงื่อนไข)

➡️อ่านต่อ: รีวิวสอบ Axi Select ฉบับเต็ม

. . . . . . . . . . . . . . .

สรุป กองทุน Forex ไหนดีที่น่าสนใจในปี 2025

หากคุณเป็นหนึ่งในผู้ที่ต้องการผันตัวมาเป็นเทรดเดอร์มืออาชีพโดยไม่ต้องใช้เงินทุนของตัวเอง การสอบกองทุน Forex ถือเป็นทางเลือกที่น่าสนใจเลยครับ โดยกองทุนเหล่านี้จะให้เงินทุนแก่เทรดเดอร์ที่สามารถสอบผ่านเงื่อนไขต่าง ๆ ที่ทางกองทุนกำหนดได้

จากนั้นคุณจะกลายเป็นเทรดเดอร์ของกองทุน และได้รับส่วนแบ่งกำไรทุกเดือนตามข้อกำหนดที่ระบุไว้ โดยกองทุน Forex ที่น่าสนใจในปี 2025 มีดังนี้

• FTMO: กองทุนยอดนิยมของเทรดเดอร์ โดยมีระบบสอบ 2-Step และสามารถขอค่าสมัครคืนได้เมื่อสอบผ่าน โดยให้ส่วนแบ่งกำไรสูงสุด 90%
  
• The5%ers: สามารถเลือกได้ว่าจะสอบแบบ 1-Step หรือ 2-Step ขึ้นไป ซึ่งให้ส่วนแบ่งกำไรสูงสุด 100%
  
• FundedNext: อนุญาตให้เทรดในช่วงที่มีข่าว และมีโปรแกรมให้เลือกสอบที่หลากหลาย รวมถึงให้ส่วนแบ่งกำไรสูงสุด 95%
  
• Topstep: กองทุนที่เน้นตลาด Futures ซึ่งเป็นอีกทางเลือกสำหรับเทรดเดอร์ที่สนใจ โดยมีส่วนแบ่งกำไรสูงสุด 100% สำหรับ $10,000 แรก
  
• Axi Select: ไม่มีค่าสมัครสอบ แต่คุณจำเป็นต้องฝากเงิน $500 โดยให้เงินทุนสูงสุด $100,000 และให้ส่วนแบ่งกำไรสูงสุด 90%

อย่างไรก็ตาม การสอบกองทุน Forex เป็นโอกาสที่ดีสำหรับเทรดเดอร์ที่มีวินัย และต้องการเข้าถึงเงินทุนขนาดใหญ่โดยไม่ต้องใช้เงินตัวเอง แต่จำเป็นต้องเลือก Prop Firm ที่เหมาะสมกับสไตล์การเทรด และมีเงื่อนไขที่โปร่งใสครับ

*หมายเหตุ: การลงทุนทุกประเภทมีความเสี่ยง ผู้ลงทุนควรศึกษาข้อมูลและเงื่อนไขต่าง ๆ อย่างละเอียด ทั้งนี้ บทความนี้เป็นเพียงการให้ความรู้ และข้อมูลของกองทุน Forex เท่านั้น

อ่านบทความอื่น ๆ เพิ่มเติม: สาระน่ารู้

พูดคุยและติดตาม Real Time: Facebook Page