‘เงินหยวนอ่อนค่า’ หรือคำทำนายของ Hedge Fund กำลังจะมาถึง

Table of Contents
เงินหยวนอ่อนค่า หรือคำทำนายของ Hedge Fund กำลังจะมาถึง
เงินหยวนอ่อนค่า หรือคำทำนายของ Hedge Fund กำลังจะมาถึง

สัญญาณอันตราย! เงินหยวนอ่อนค่า ทะลุ 7 หยวนต่อดอลลาร์ ในรอบ 2 ปี

สืบเนื่องมาจากการที่ เงินหยวนอ่อนค่า ปรับตัวลดลงแรงล่าสุดอยู่ที่ระดับ 0.1440 เมื่อเทียบกับสกุลเงินดอลลาร์ ทะลุ 7 หยวนต่อดอลลาร์ ถือเป็นการอ่อนค่ามากที่สุด ตั้งแต่ปี 1994 ซึ่งเป็นสาเหตุมาจากเศรษฐกิจที่มีการชะลอตัวจากมาตรการ Zero-Covid โดยได้ทำการล็อกดาวน์ไปยังเมืองสำคัญต่าง ๆ และการแข็งค่าอย่างต่อเนื่องของสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐ ทั้งนี้ เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกลับใกล้เคียงกับคำทำนายของ Hedge Fund (เพิ่มเติม) เมื่อ 8 ปีที่แล้วว่า ”หยวนจะล่มสลาย

การแข็งค่าของสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐสะท้อนว่า ธนาคารกลางสหรัฐฯ (FED) จะปรับขึ้นดอกเบี้ยอย่างรุนแรง หรือมากกว่า 0.75% ในการประชุมวันที่ 20-21 ก.ย. นี้ ทำให้ช่องว่างระหว่างนโยบายการเงินของจีนและสหรัฐฯ ถ่างกว้างมากขึ้น และอาจส่งผลให้เกิดเรื่องของเงินไหลออก ซึ่งค่าเงินหยวนยังถูกกดดันจากมาตรการป้องกัน Covid-19 และวิกฤตด้านอสังหาริมทรัพย์ รวมถึงภาคการส่งออกที่ชะลอตัว แต่ทางการจีนค่อนข้างมั่นใจว่า จะสามารถรักษาเสถียรภาพของค่าเงินไว้ได้

เงินหยวนอ่อนค่า “ประวัติศาสตร์ย้อนรอยให้เห็น ณ ปัจจุบันเสมอ”

ย้อนกลับไปเมื่อ 8 ปีที่แล้ว เควิน สมิธ ผู้จัดการกองทุนเฮดจ์ฟันด์ของสหรัฐฯ หรือผู้ก่อตั้งและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร Crescat Capital บริษัทจัดการสินทรัพย์ระดับโลก เคยทำนายไว้ว่า เงินหยวนจะอ่อนค่าลงจนทำให้มูลค่าลดลงไปครึ่งหนึ่ง และดูเหมือนว่า มันกำลังเริ่มต้นขึ้นแล้ว โดยตลาดหุ้นจีนมีแนวโน้มเป็นขาลง และเศรษฐกิจกำลังจะชะลอตัวจากมาตรการคุมเข้มต่าง ๆ ที่สำคัญทางธนาคารกลางจีน (PBOC) ได้ทำการปรับลดอัตราดอกเบี้ยสวนทางกับธนาคารกลางทั่วโลกที่ขึ้นอัตราดอกเบี้ย ส่งผลให้สร้างแรงจูงใจที่นักลงทุนจะนำเงินออกไปลงทุนนอกประเทศ ณ ปัจจุบัน เงินหยวนอ่อนค่าลงมากกว่า 8% เมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐในปีนี้ นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่า จีนกำลังเผชิญกับวิกฤตทางการเงินที่ร้ายแรงมากกว่าวิกฤตการเงินโลกที่ร้ายแรงในสหรัฐฯ

เบื้องหลังการเกิด ‘เงินหยวนอ่อนค่า’ ของจีนในปัจจุบัน

นักวิเคราะห์ลงความเห็นว่า ในระยะเวลาหลายปีที่ผ่านมา ธนาคารให้ภาคอสังหาริมทรัพย์กู้ยืมมากเกินไป ซึ่งนำไปสู่การปล่อยสินเชื่อไร้คุณภาพจนทำให้เกิดหนี้เสีย ทางการจีนจึงต้องพิมพ์ออกมาเงินให้ธนาคารต่าง ๆ และนำไปสู่การอ่อนค่าของเงินหยวนในที่สุด

แต่นักวิเคราะห์บางกลุ่มมีความเห็นต่างว่า แท้จริงแล้วการอ่อนค่าของเงินหยวน สาเหตุหลักมาจากการแข็งค่าของสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐโดยเฉพาะ เมื่อมีการเปรียบเทียบจึงทำให้หยวนอ่อนค่าตามไปด้วย และเกิดการเกินดุลทางการค้ามากเป็นประวัติการณ์ของจีนก็ช่วยสกัดการไหลออกของเงินทุนไปนอกประเทศได้เช่นกัน

อย่างไรก็ตาม เควิน สมิธ เป็นนักวิเคราะห์เพียงไม่กี่คนที่คาดการณ์ว่า เงินหยวนจะล่มสลาย สวนทางกับหวัง เถา นักเศรษฐศาสตร์ของ UBS Group ที่กล่าวว่า ‘เงินในประเทศของจีนนั้นมีจำนวนมหาศาล พร้อมทั้งยังมีการควบคุมระบบธนาคารอย่างเข้มงวด’ ดังนั้น จีนน่าจะผ่านพ้นวิกฤตในครั้งนี้ไปได้ ในด้านของตลาดหุ้นจีนอาจมีการปรับตัวขึ้นในปีหน้า โดยคาดการณ์จากทิศทางของหุ้นเทคโนโลยีส่วนใหญ่ในจีน


Source: ทีมงาน Traderbobo

อ่านบทความเพิ่มเติมได้ที่สาระน่ารู้

อ่านรีวิวโบรกเกอร์เพิ่มเติมได้ที่Review Broker

Social Share
Facebook
Twitter
Picture of Traderbobo
Traderbobo

นักลงทุนในตลาด Forex และสินทรัพย์ทางการเงินด้วยประสบการณ์กว่า 10 ปี มุ่งเน้นการนำเสนอเนื้อหาที่เข้าใจง่าย พร้อมแบ่งปันความรู้และกลยุทธ์การเทรด เพื่อช่วยให้คุณประสบความสำเร็จในโลกการเงิน เหมาะสำหรับทั้งเทรดเดอร์มือใหม่และมืออาชีพ

บทความน่าสนใจ
Adsense
Table of Contents
บทความน่าสนใจ
Adsense
Top Forex Brokers
IUX
Rated 5 out of 5
GO Markets
Rated 3.5 out of 5
EIGHTCAP
Rated 4 out of 5
Advertisement
FBS
Rated 3 out of 5
Pepperstone
Rated 2 out of 5
IUX
Rated 5 out of 5
FXGT.com
Rated 3.5 out of 5
EIGHTCAP
Rated 4 out of 5
Advertisement
FBS
Rated 3 out of 5
Pepperstone
Rated 2 out of 5